เอเอฟพี/MGRออนไลน์ - ในขณะที่ "เหริน เจิ้งเฟย" ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยออกมาปัดข่าวการที่บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีนถูกขึ้นบัญชีดำ แต่ทว่าล่าสุดพนักงานหัวเว่ยออกมาเปิดเผยแสดงความรู้สึกถึงความไม่มั่นใจในอนาคตผ่านห้องแชทรูม เกิดขึ้นหลังในฝั่งอเมริกา ผู้นำสหรัฐฯตกที่นั่งลำบากไม่แพ้ จำเป็นต้องเข็นแพ็กเกจให้เงินอุดนหนุนช่วยเกษตรกรอเมริกันรอบ 2 ร่วม 16 พันล้านดอลลาร์ในวิกฤตสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน
เอเอฟพีรายงานวันนี้(26 พ.ค)ว่า ประธานบริษัทโทรคมนาคมจีน เหริน เจิ้งเฟย ได้ประกาศในสัปดาห์นี้ อ้างว่าได้แอบกักตุนส่วนประกอบสาคัญเป็นต้นว่า ไมโครชิป รวมไปถึงออกมาประกาศถึงความสามารถของตัวเองที่สามารถผลิตได้เองในความพยายามการต่อต้านการแบนจากสหรัฐฯจากการไม่อนุญาตให้ทาง "หัวเว่ย" ใช้เทคโนโลยีและไมโครชิปของสหรัฐฯ
เหรินได้กล่าวต่อหน้าผู้สื่อข่าวจีนว่า "หากว่าพวกคุณต้องการทราบว่าเกิดขึ้นอะไรกับพวกเรา พวกคุณสามารถเยี่ยมพวกเราได้ที่ชุมชนซินเชง ( Xinsheng )" พร้อมกับเปิดเผยว่า ฟอรัมภายในของหัวเว่ยบางส่วนเปิดสู่ภายนอก
แต่ทว่าเมื่อทางผู้สื่อข่าวเอเอฟพีได้เข้าไปสำรวจในฟอรัมแห่งนี้ กลับพบว่าคำปลอบประโลมของเขาไม่ได้ส่งถึงทุกคนภายในบริษัทที่มีฐานอยู่ในเซินเจิ้น "ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ พวกเราจะสามารถทำได้อย่างไรบ้างในฐานะมนุษย์ตัวเล็กๆคนหนึ่ง" พนักงานหัวเว่ยที่ใช้นามแฝงว่า เส้า เฟง( Xiao Feng) กล่าวในหัวข้อ
ซึ่งเอเอฟพีชี้ให้เห็นว่า การออกมาเปรยเช่นนี้ พนักงานหัวเว่ยยอมรับว่าทางบริษัทกำลังอยู่ในฐานะที่ลำบาก และมีคำตอบกลับมาจากผู้โพสต์ว่า "อยู่ที่บ้าน พยายามที่ลดหนี้และพยายามที่จะให้มีเงินสดอย่างพอเพียง" เส้าชี้ พร้อมเสริมว่า "วางแผนเกี่ยวกับทรัพย์สินทางการเงินของคุณ และอย่าคาดหวังในทางที่ดีมากจนเกินไปเกี่ยวกับค่าตอบแทนและเงินเดือน"
เอเอฟพีรายงานว่า หัวเว่ยซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของกูเกิลถูกทางกูเกิลประกาศตัดความสัมพันธ์จากคำสั่งการขึ้นบัญชีดำของรัฐบาลทรัมป์ส่งผลอย่างจังต่อหัวเว่ยที่ต้องพึ่งพาระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิลที่โทรศัพท์สมาร์ทโฟนทุกเครื่องในโลกนี้ต้องใชบ้หากไม่ใช่จากค่ายแอปเปิล
นอกจากนี้ บริษัท อาร์ม โฮลดิงส์ (ARM Holdings) บริษัทผู้ออกแบบเซมิคอนดักเตอร์สัญชาติอังกฤษที่มีเจ้าของคือ ธนาคารซอฟต์แบงก์ของญี่ปุ่นออกมาประกาศทำตามคำสั่งแบนของสหรัฐฯเช่นกันด้วยการประกาศตัดความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับหัวเว่ย
หนึ่งในพนักงานของหัวเว่ยที่ไม่เปิดเผยชื่อได้โพสต์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า "ทางหัวเว่ยไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยตัวเอง ทางเราจำเป็นต้องหาการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาล" ซึ่งเป็นการโพสต์ที่ได้รับยอดกดไลค์และการแสดงความเห็นเพิ่มเติมร่วมหลายสิบ
ทางพนักงานได้แสดงแผนการให้ปักกิ่งทำการปิดกั้นตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศจากบริษัทอเมริกันคู่แข่งทุกราย เกิดขึ้นในแบบเดียวกันกับที่ทางปักกิ่งได้สร้างบริษัทอินเตอร์เนตไฮเทคยักษ์ใหญ่ของจีนภายใต้ "กำแพงเกรทไฟร์วอล" ที่กันกูเกิล เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอีกบริษัทต่างชาติหลายสิบออกไป
"ตลาดภายในประเทศของเราใหญ่เพียงพอ พวกเราสามารถใช้โอกาสนี้ในการสร้างซัพพลายเออร์ในประเทศ และระบบสิ่งแวดล้อมของพวกเรา" พนักงานหัวเว่ยกล่าวผ่านโพสต์
เอเอฟพีชี้ว่า สำหรับตัวประธานบริษัทหัวเว่ย เขากล่าวว่า เขาไม่ต้องการส่งเสริมประชานิยม เพราะเป็นการทำลายประเทศ แต่กลับพบว่า สมาชิกของครอบครัวของเหรินใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทแอปเปิลของสหรัฐฯ
ส่วนพนักงานหัวเว่ยต่างใช้ห้องแชทแสดงการหาทางออกที่จะช่วยเหลือบริษัทต่างๆนานา เป็นต้นว่า ใช้แพลทฟอร์ม อาลีบาบา หรือเถาเป่า(Taobao)ในการหาซื้อชิ้นส่วนที่ต้องการ ส่วนอีกรายไอเดียสุดบรรเจิด แนะให้จัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่อีก 20 บริษัทเพื่อใช้สำหรับการสั่งซื้อชิ้นส่วนสำคัญจากสหรัฐฯโดยเฉพาะ
แต่มีอีกจำนวนมากที่ออกมาประณามสหรัฐฯพร้อมกับต้องการให้ทางปักกิ่งสั่งแบน แมคโดนัลด์ น้ำอัดลมโคคา โคล่า และภาพยนต์และซีรีส์จากอเมริกาทั้งหมด
ในซินเชง พนักงานคนหนึ่งใช้ชื่อแฝงว่า ยูซินผู้คร่ำครวญ(Youxin lamented) กล่าวพร้อมกับสัญลักษณ์ใบหน้าที่เศร้าว่า "ต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้าและถอยไปพร้อมกับบริษัท แต่บอสกลับสั่งให้เก็บของและออกไป"
ขณะเดียวกันในฝั่งอเมริกา ภาคเกษตรในสหรัฐฯโดยเฉพาะชาวไร่ถั่วเหลืองกำลังฝันร้ายจากสงครามการค้ารอบใหม่ ส่งผลทำให้ผู้นำสหรัฐฯต้องประกาศเงินช่วยเหลือรอบที่ 2 จำนวนรวม 16 พันล้านดอลลาร์
โดยรัฐบาลทรัมป์ได้ออกมาแถลงในวันพฤัสบดี(23) ประกาศแพ็กเกจเงินสนับสนุนแก่เกษตรกรสหรัฐฯที่ได้รับผลร้ายจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อมาร่วมปีกับจีน ทำให้ยอดการช่วยเหลือจากวอชิงตันมาจนถึงเวลานี้อยู่ที่ 28 พันล้านดอลลาร์ บิสซิเนส อินไซเดอร์ ชี้
ทั้งนี้พบว่าแพ็กเกจช่วยเหลือครั้งนี้มูลค่ารวม 16 พันล้านดอลลาร์ แบ่งเป็น 14.5 พันล้านดอลลาร์จะเป็นการจ่ายโดยตรงให้กับเกษตรกรผ่านโครงการช่วยเหลือของรัฐ กระทรวงการเกษตรสหรัฐฯแถลง ในขณะที่อีก 1.5 พันล้านดอลลาร์จะถูกเก็บไว้สำหรับการซื้อสินค้าโภคภัณฑ์และกิจกรรมด้านการตลาด
การประกาศให้เงินสนับสนุนรอบที่ 2 เมื่อวันพฤหัสบดี(23) สะท้อนให้เห็นถึงการประกาศแพ็กเกจช่วยเหลือของรัฐบาลทรัมป์ก่อนหน้ามูลค่า 12 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้วที่ให้แก่เกษตรกรสหรัฐฯทั้งทางตรงและทางอ้อมหลังสงครามการค้ากับจีนได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในสหรัฐฯที่ถูกประกาศตอบโต้ทางการค้าด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของอเมริกา ปิดกั้นพวกเขาจากตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุด ทำให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น