เอพี - สตีเฟน เอ็ม. คอล์ค( Stephen M. Calk)วัย 54 ปี ประธานบริหารธนาคารเฟเดอรัล เซฟวิงส์ แบงก์(The Federal Savings Bank)ที่มีฐานอยู่ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ถูกปล่อยตัวออกมาด้วยวงประกัน 5 ล้านดอลลาร์ หลังปรากฎตัวต่อหน้าศาลแขวงรัฐบาลกลางสหรัฐฯในแมนแฮตตันเมื่อวานนี้(23 พ.ค) เขาปฎิเสธความผิดพยายามที่จะซื้อตำแหน่งระดับสูงในรัฐบาลทรัมป์ด้วยการปล่อยกู้มีความเสี่ยงสูงให้กับอดีตผู้จัดการหาเสียง พอล มานาฟอร์ต มูลค่า 16 ล้านดอลลาร์
เอพีรายงานวันนี้(24 พ.ค)ว่า ในวันพฤหัสบดี(23) เดบรา ฟรีแมน (Debra Freeman) ผู้พิพากษาศาลแขวงรัฐบาลกลางสหรัฐฯในแมนแฮตตันได้กล่าวเตือนต่อ สตีเฟน เอ็ม. คอล์ค( Stephen M. Calk)วัย 54 ปีอดีตประธานบริหารธนาคารเฟเดอรัล เซฟวิงส์ แบงก์(The Federal Savings Bank) ห้ามไม่ให้เขาทำการติดต่อพนักงานธนาคาร เว้นแต่น้องชาย จนกว่าในสัปดาห์หน้าที่ทางอัยการสหรัฐฯจะยื่นรายชื่อกลุ่มบุคคลที่เขาไม่สามารถทำการติดต่อสื่อสาร
ในขณะที่ธนาคาร เฟเดอรัล เซฟวิงส์ แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารขนาดเล็กมีสำนักงานใหญ่ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ออกแถลงการณ์มีใจความว่า คอล์คไม่มีความเกี่ยวข้องกับทางธนาคารอีกต่อไป และอยู่ในระหว่างการถูกสั่งพักงาน
ทั้งนี้พบว่า คอล์คขึ้นปรากฎตัวที่ศาลแมนแฮตตันในช่วงสั้นๆและได้รับอนุญาตให้ถูกปล่อยตัวภายใต้วงประกันจำนวน 5 ล้านดอลลาร์ เขากล่าวปฎิเสธในการกระทำผิดตามข้อกล่าวหา เอพีชี้
ในการแถลงของอัยการรัฐบาลกลางสหรัฐฯระบุถึงการกระทำผิดของคอล์คว่า ใช้อำนาจทางตำแหน่งที่มีในธนาคารอย่างมิชอบด้วยการอนุมัติสินเชื่้อ 16 ล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นเงินกู้มีความเสี่ยงสูงให้กับ "พอล มานาฟอร์ต" อดีตผู้จัดการหาเสียงเลือกตั้งทรัมป์ปี 2016
เอพีชี้ว่า คอล์คต้องการซื้อตำแหน่งระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯให้กับตัวเองด้วยการอนุมัติเงินกู้ให้กับมานาฟอร์ต
ด้าน วิลเลียม เอฟ. สวีนนีย์ จูเนียร์ (William F. Sweeney Jr) หัวหน้าสำนักงาน FBI สาขานิวยอร์กกล่าวว่า คอล์คไปไกลกว่านั้นด้วยการพยายามอย่างหนักในการหลบเลี่ยงการทำผิดกฎหมายทางธนาคาร ด้วยการพยายามที่จะให้ได้รับตำแหน่งระดับสูงในรัฐบาลของประธานาธิบดีสหรัฐฯ"
"เขาพยายามในการขอตำแหน่งทางการเมืองที่ไม่ประสบความสำเร็จมากกว่า 1 หนทาง เขาไม่ได้ตำแหน่งตามที่เขาต้องการ และเขาได้รับคำสัญญาในสิ่งที่เขามีอยู่แล้ว" สวีนนีย์กล่าว
โดยอัยการสหรัฐฯกล่าวว่า ในขณะที่การอนุมัติสินเชื้อของมานาฟอร์ตค้างอยู่ คอล์คได้ให้รายชื่อตำแหน่งที่เขาต้องการเข้าร่วมกับทรัมป์นับตั้งแต่รัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ รวมไปถึงรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศต่างๆ เป็นต้น
ทั้งนี้หากว่า คอล์คถูกตัดสินว่าผิดจริง เขาอาจต้องรับโทษจำคุกนาน 30 ปีในเรือนจำ
เอพีชี้ว่า มานาฟอร์ตได้เจรจากับบุตรเขยทรัมป์ จาเรด คุชเนอร์ ให้พิจารณาแต่งตั้ง สตีเฟน เอ็ม. คอล์ค ให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกองทัพบกสหรัฐ(Secretary of the Army) ซึ่งเป็นตำแหน่งข้าราชการพลเรือนอาวุโสในกระทรวงกลาโหมสหรัฐ อ้างอิงจากหนึ่งในอีเมลในช่วงปีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2016 ที่ได้แสดงต่อคณะลูกขุนในการพิจารณาคดีฉ้อโกงธนาคารและเลี่ยงภาษีของมานาฟอร์ตเมื่อปีที่แล้ว
อ้างอิงจากหลักฐานการไต่สวน พบว่ามานาฟอร์ตได้ส่งประวัติการทำงานของคอล์คไปให้กับคุชเนอร์ในอีเมลเมื่อวันที่ 30 พ.ย 2016 รวมไปถึงอีก 2 คนที่มานาฟอร์ตกล่าวว่า สมควรอยู่ในชุดรัฐบาลทรัมป์
อย่างไรก็ตาม ไม่พบว่าคอล์คจะได้รับตำแหน่งในคณะรัฐบาลทรัมป์ถึงแม้ว่าเขาจะอนุมัติเงินกู้ให้กับมานาฟอร์ตก็ตาม
มานาฟอร์ตได้รับเงินกู้จำนวน 9.6 ล้านดอลลาร์จากธนาคารของคอล์คเมื่อพฤศจิกายน 2016 และอีก 6.5 ล้านดอลลาร์ในเงินกู้ก่อสร้างสำหรับอสังหาริมทรัพย์ของมานาฟอร์ตที่นิวยอร์กในมกราคม 2017
ทางอัยการสหรัฐฯกล่าวว่า เขาเริ่มใช้อำนาจมิชอบจากตำแหน่งเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เมื่อกรกฎาคม 2016 ซึ่งทางผู้บริหารของแบงก์ที่เคยทำงานภายใต้คอล์คในเวลานั้นที่ธนาคารเฟเดอรัล เซฟวิงส์ แบงก์ได้ให้การต่ออัยการสหรัฐฯว่า เขาเริ่มอนุมัติเงินกู้ไม่ต่ำกว่า 16 ล้านดอลลาร์หลังจากที่เขาได้กล่าวแสดงความสนใจในการเข้าร่วมคณะครม.สหรัฐฯหากว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งปี 2016
