xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ กล่าวหาซีอีโอหัวเว่ย “โกหก” ไม่ยอมรับมีความเชื่อมโยงรัฐบาลจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (23 พ.ค.) กล่าวหาซีอีโอของหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ โกหกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหัวเว่ยกับรัฐบาลจีน และเขาเชื่อว่าจะมีบริษัทต่างๆ ของอเมริกามากขึ้นที่ตัดความสัมพันธ์กับยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมของจีนแห่งนี้

สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำทางการค้าหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผลก็คือแบนบริษัทต่างๆ ของอเมริกาจากการทำธุรกิจกับผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในโลก และโหมกระพือข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลก

"บริษัทแห่งนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งไม่ใช่แค่กับจีน แต่รวมไปถึงพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วย และความเชื่อมโยงเหล่านี้ที่ยังมีอยู่ในปัจจุบัน ทำข้อมูลของสหรัฐฯ ที่ส่งผ่านเครือข่ายต่างๆ เหล่านั้นตกอยู่ในความเสี่ยง" พอมเพโอให้สัมภาษณ์แก่สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี

หัวเว่ยปฏิเสธซ้ำๆ ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลจีน, กองทัพหรือหน่วยข่าวกรอง อย่างไรก็ตาม พอมเพโอเมินคำปฏิเสธจากเหริน เจิ้งเฟย ซีอีโอของหัวเว่ย ที่ยืนยันว่าบริษัทของเขาไม่เคยแชร์ความลับของผู้ใช้

"มันเป็นแค่คำโกหก ที่บอกว่าพวกเขาไม่ได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลจีนเป็นคำโกหก เขาถูกกำหนดโดยกฎหมายจีนให้ทำแบบนั้น อย่างน้อยๆ ซีอีโอของหัวเว่ยก็ไม่ได้บอกความจริงกับประชาชนชาวอเมริกันหรือชาวโลก" พอมเพโอระบุ

เมื่อถูกถามว่าเขาเชื่อหรือไม่ว่าบริษัทต่างๆ ของสหรัฐฯ จะหยุดร่วมมือกับหัวเว่ยเพิ่มเติม "มันจะเป็นแบบนั้น เราได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อรับประกันว่าทุกคนจะตระหนักถึงความเสี่ยง"

ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี (23 พ.ค.) หนังสือพิมพ์โชซุน อิลโบของเกาหลีใต้รายงานว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กำชับเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ว่า ไม่ควรอนุญาตให้แอลจี ยูพลัสที่ใช้อุปกรณ์หัวเว่ย ให้บริการในพื้นที่อ่อนไหว และสำทับว่าเกาหลีใต้ควรแบนอุปกรณ์ของหัวเว่ยโดยสิ้นเชิง

แหล่งข่าวในแวดวงนักการทูตในโซลยังเปิดเผยว่า วอชิงตันส่งสารย้ำเตือนผ่านช่องทางต่างๆ ถึงกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ว่า การใช้ผลิตภัณฑ์หัวเว่ยอาจทำให้เกิดปัญหาด้านความมั่นคง

ในส่วนของทางการจีน เมื่อวันพุธ หวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวในที่ประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (เอสซีโอ) ที่คีร์กิสถานว่า การที่อเมริกาใช้อำนาจกดดันตามอำเภอใจต่อบริษัทเอกชนอย่างหัวเว่ยถือเป็นการรังแกทางเศรษฐกิจ และเสริมว่า คนกลุ่มหนึ่งในอเมริกาไม่ต้องการให้จีนใช้สิทธิที่ชอบธรรมตามกฎหมายในการพัฒนา และพยายามขัดขวางกระบวนการพัฒนาของจีน

หวังวิจารณ์ว่า พฤติกรรมที่อวดดีและเห็นแก่ตัวของอเมริกาไม่มีทางได้รับความเห็นชอบและการสนับสนุนจากนานาชาติ ก่อนสำทับว่า จีนไม่อาจลงนามหรือยอมรับข้อตกลงการค้าที่ไม่เท่าเทียมได้ ถ้าอเมริกายินดีเจรจาบนพื้นฐานของความเท่าเทียม เมื่อนั้นจีนก็พร้อมเจรจา แต่ถ้าอเมริกาเลือกใช้นโยบายเพิ่มความกดดันสูงสุด จีนก็จะต่อสู้จนถึงที่สุดเช่นเดียวกัน

สัปดาห์ที่แล้ว อเมริกาประกาศห้ามหัวเว่ย ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่มียอดขายอันดับ 2 ซื้อสินค้าที่ผลิตจากวัสดุหรือเทคโนโลยีที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกา 25% ขึ้นไป โดยกล่าวหาว่าหัวเว่ยเป็นเครื่องมือสอดแนมของรัฐบาลจีนและเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น