รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - จีนแถลงในวันจันทร์ (13 พ.ค.) ว่าจะปรับเพิ่มพิกัดอัตราศุลกากรที่เก็บจากสินค้าสหรัฐฯ หลายหลากชนิด เป็นการโจมตีคืนในสงครามการค้าระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน ไม่นานนักหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของอเมริกาเพิ่งออกมาขู่เตือนว่า อย่าได้คิดตอบโต้แก้เผ็ด เรื่องที่เขาเล่นงานสินค้าจีนระลอกล่าสุดเมื่อวันศุกร์ (10 พ.ค.) ที่ผ่านมา
กระทรวงการคลังจีนแถลงในคืนวันจันทร์ เรื่องแผนการที่จะจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 5% จนถึง 25% จากผลิตภัณฑ์ของสหรัฐฯ 5,140 รายการในบัญชีเป้าหมายซึ่งมีมูลค่ารวมกันประมาณ 60,000 ล้านดอลลาร์ โดยที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้
การแถลงของปักกิ่งคราวนี้ บังเกิดขึ้นไม่ถึง 2 ชั่วโมงหลังจากทรัมป์เตือนผ่านทวิตเตอร์ว่า ปักกิ่งอย่าได้คิดแก้เผ็ดทีเดียว สืบเนื่องจากฝ่ายจีนประกาศว่า “จะไม่มีทางยอมจำนนต่อแรงบีบคั้นจากภายนอก”
ราคาหลักทรัพย์ทั่วโลกต่างดำดิ่งเป็นแถวในวันจันทร์ (13) เมื่อความหวังที่ว่าประเทศเจ้าของระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 1 และอันดับ 2 ของโลกกำลังจะทำข้อตกลงการค้าได้รอมร่ออยู่แล้ว เป็นอันถูกทำลายยับเยินไปเสียแล้ว
ศึกการค้าระหว่างประเทศทั้งสองบานปลายยกระดับสูงขึ้นอีกเมื่อวันศุกร์ (10) หลังจากทรัมป์สั่งขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าจีนมูลค่ารวม 200,000 ล้านดอลลาร์ จากที่ได้เก็บเพิ่มในอัตรา 10% ไปแล้วตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ก็ขยับไปใช้อัตรา 25% โดยเขากล่าวหาว่าปักกิ่งได้ตระบัดสัตย์คำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ก่อนหน้านี้ ระหว่างการเจรจาต่อรองทางการค้าที่ดำเนินมาหลายเดือน
ปักกิ่งบอกว่าจะตอบโต้การขึ้นภาษีระลอกล่าสุดนี้ของสหรัฐฯอย่างแน่นอน แล้วในวันจันทร์ (13) ระหว่างการแถลงข่าวประจำวัน เกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนนอกจากบอกว่า จีนจะไม่มีทางยอมจำนนต่อแรงบีบคั้นจากภายนอกแล้ว ก็พูดด้วยว่า สำหรับรายละเอียดการตอบโต้ของปักกิ่งจะเป็นอย่างไรนั้น ขอให้ติดตามต่อไป
ไม่นานนัก ทรัมป์ได้ทวิตเตือนจีนว่าอย่าได้ทำให้การพิพาททางการค้ายิ่งดุเดือด และเรียกร้องคณะผู้นำจีน รวมทั้งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้มาทำงานกันต่อไปเพื่อบรรลุข้อตกลงทางการค้า “จีนไม่ควรที่จะตอบโต้แก้เผ็ด -มีแต่จะเกิดความเลวร้ายลงเท่านั้น” เขาระบุในทวิตเตอร์ของเขา
“ผมขอพูดอย่างเปิดอกกับประธานาธิบดีสี และเพื่อนทั้งหมดของผมที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในจีน ว่าจีนจะเจ็บหนักมากๆ ถ้าพวกคุณไม่ยอมทำข้อตกลง เพราะบริษัทต่างๆ จะถูกบังคับให้ทิ้งจีนไปอยู่ประเทศอื่นๆ” ทรัมป์เขียนเอาไว้เช่นนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ยังออกคำสั่งให้ โรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เริ่มต้นเตรียมการเพื่อขึ้นภาษีศุลกากรกับสินค้าจีนที่เวลานี้ยังไม่ถูกเก็บเพิ่ม ความเคลื่อนไหวนี้คาดว่าจะกระทบกระเทือนสินค้าแดนมังกรอีกราวๆ 300,000 ล้านดอลลาร์
เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับการข่มขู่ของฝ่ายสหรัฐฯ โฆษกเกิ่งตอบว่า “เราได้พูดมาหลายครั้งแล้วว่า การขึ้นภาษีศุลกากรจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ … เรามีความเชื่อมั่นและมีความสามารถที่จะพิทักษ์ปกป้องสิทธิอันถูกต้องตามกฎหมายและชอบธรรมของเรา”
ทางด้านสื่อภาครัฐของจีนก็ยังคงแสดงท่าทีฮึกเหิมใช้คำพูดแรงๆ ในบทวิจารณ์เมื่อวันจันทร์ (13) โดยย้ำว่า จีนเปิดประตูกว้างสำหรับการหารือกันอยู่เสมอ แต่ก็จะปกป้องผลประโยชน์และศักดิ์ศรีของประเทศชาติ
ในบทวิจารณ์ชิ้นหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาล กล่าวว่า ผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯที่มีต่อเศรษฐกิจจีนนั้น เป็นเรื่องที่ “สามารถควบคุมเอาไว้ได้โดยสิ้นเชิง”
“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร จีนมีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นโอกาส และจะใช้เรื่องนี้มาทดสอบความสามารถต่างๆ ของตน เพื่อทำให้ประเทศชาติยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก”
ขณะที่หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้า (พีเพิลส์ เดลี) ปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์ กล่าวในบทความฉบับวันจันทร์ว่า ไม่ว่าใครก็ไม่ควรคาดหวังว่า จีนจะยอมกลืนกินผลไม้มีพิษที่บ่อนทำลายผลประโยชน์หลักของประเทศ และว่า แม้ปักกิ่งเปิดกว้างในการหารือแต่จะไม่ยอมจำนนในประเด็นที่มีความสำคัญในด้านหลักการ
