อดีต จนท.ซีไอเอรับสารภาพขายข้อมูลลับให้ ‘จีน’

รอยเตอร์ - อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ยอมรับสารภาพว่าได้ส่งต่อข้อมูลด้านกลาโหมและข่าวกรองชั้นความลับของสหรัฐฯ ให้แก่จีน กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (1 พ.ค.) ถือเป็นคดีที่ 3 ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี

เจอร์รี ชุน ชิง ลี วัย 54 ปี ลาออกจากซีไอเอเมื่อปี 2007 และย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฮ่องกง เขาได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ข่าวกรองจีน 2 คนเมื่อปี 2010 โดยเสนอจะจ่ายเงินให้ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ และดูแล ลี ไป “ตลอดชีวิต” หากยอมเปิดเผยข้อมูลลับของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้ทราบมาจากการทำงานให้ซีไอเอ

หลังจากนั้นก็มีเงินอีกหลายแสนดอลลาร์สหรัฐถูกโอนเข้าสู่บัญชีธนาคารของ ลี ในช่วงระหว่างปี 2010-2013

ถ้อยแถลงของกระทรวงระบุว่า ลี ได้สร้างทัมป์ไดรฟ์ขึ้นมาหลายอันเพื่อบันทึกข้อมูลลับเกี่ยวกับกิจกรรมของซีไอเอ รวมถึงสถานที่และระยะเวลาในการปฏิบัติภารกิจลับต่างๆ

เมื่อปี 2012 เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ได้เข้าตรวจค้นห้องของโรงแรมแห่งหนึ่งที่โฮโนลูลูซึ่ง ลี มีชื่อเป็นผู้เข้าพัก และพบสมุดโน้ตที่เขาจดบันทึกการทำงานกับซีไอเอในช่วงก่อนปี 2004

“สมุดบันทึกเหล่านี้มีข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินของซีไอเอ ชื่อที่แท้จริงของทรัพย์สินเหล่านั้น สถานที่พบปะของหน่วยปฏิบัติการ เบอร์โทรศัพท์ และข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ลับเฉพาะต่างๆ” กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุ

จอห์น ดีเมอร์ส รัฐมนตรีช่วยยุติธรรมฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่า นี่คือคดีที่ 3 ในช่วงเวลาไม่ถึง 1 ปีซึ่งอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ ยอมรับสารภาพ หรือถูกพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดฐานขายความลับของชาติให้แก่จีน

ศาลมีกำหนดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 23 ส.ค. ซึ่ง ลี อาจมีโทษถึงขั้นจำคุกคลอดชีวิต

เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา รอน ร็อกเวลล์ แฮนสัน ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานข่าวกรองกลาโหมสหรัฐฯ ก็รับสารภาพว่าได้ส่งต่อข้อมูลลับให้แก่จีนเพื่อแลกกับเงินหลายแสนดอลลาร์

เดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว เควิน มัลลอรี อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเออีกคนหนึ่ง ก็ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานจารกรรมด้วยการส่งมอบข้อมูลชั้นความลับของสหรัฐฯ ให้แก่จีน

คริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการซีไอเอ ออกมาแถลงในสัปดาห์นี้ว่า จีนถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดสำหรับสหรัฐอเมริกาในแง่ของการจารกรรมทางเศรษฐกิจ

เดือนที่แล้ว กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า อดีตวิศวกรและนักธุรกิจชาวจีนคนหนึ่งถูกตั้งข้อหาจารกรรมทางเศรษฐกิจ และสมคบคิดขโมยความลับทางการค้าของบริษัท เจเนอรัล อิเล็กทริก โค โดยเป็นแผนที่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุนทั้งในด้านการเงินและอื่นๆ