เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - เมื่อวานนี้(27 เม.ย) ประธานาธิบดีศรีลังกา ไมตรีปาละ สิริเสนา ออกคำสั่งให้กลุ่มอิสลามิสต์ที่เชื่อว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโจมตี ให้เป็นกลุ่มผิดกฏหมาย ในขณะที่ภรรยาและลูกของหัวหน้ากลุ่มวางแผนโจมตี ได้รับบาดเจ็บหลังโคลัมเบียส่งเจ้าหน้าที่บุกเซฟเฮาส์วันศุกร์(26 เม.ย) ล่าสุด สื่อศรีลังการายงาน ตำรวจจับกุม 2 ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญโจมตีวันอีสเตอร์เลือด(21 เม.ย)
สปุตนิคนิวส์ สื่อรัสเซีย รายงานวันนี้(28 เม.ย)ว่า สำนักข่าว อดา เดรานา(Ada Derana) ของศรีลังการายงานล่าสุดโดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้เปิดเผยว่า ในเวลานี้สามารถควบคุมผู้ต้องหาคนสำคัญ 2 คนในคดีระเบิดศรีลังกาแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อในเวลานี้
ทั้งนี้ก่อนหน้ารอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(27)ว่า กลุ่มเนชันแนล เตาฮีด ญะมาอัต NTJ (National Thawheedh Jamaath) และกลุ่มจัมมามิยาตัล มิลลาตู อิบราฮิม ( Jamathei Millathu Ibrahim ) ที่เชื่อว่าอยู่เบื้องหลังก่อเหตุนองเลือดระเบิดศรีลังกาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เม.ย ที่ผ่านมา ล่าสุดในวันเสาร์(27) ถูกประธานาธิบดี ศรีลังกา ไมตรีปาละ สิริเสนา ใช้อำนาจฉุกเฉิน ประกาศให้กลุ่มอิสลามิสต์ทั้งสอง “นอกกฎหมาย” รายงานผ่านแถลงการณ์ของประธานาธิบดี
ทางเจ้าหน้าที่ศรีลังกาอ้างสาเหตุที่ทางโคลัมโบเพิ่งสั่งให้กลุ่ม NTJ และกลุ่มจัมมามิยาตัล มิลลาตู อิบราฮิม นอกกฎหมายทั้งๆที่เกิดเหตุมาร่วมกว่าสัปดาห์ และมีผู้เสียชีวิตโดยรวมร่วม 250 รายที่ได้ถูกสั่งปรับลดมาจาก 350 รายก่อนหน้า โดยชี้ว่ากลุ่มทั้งสองไม่เป็นที่รู้จักมากนักในประเทศ และตามกฎหมายศรีลังกาการประกาศแบนต้องมีหลักฐานชัดเจน
ตำรวจศรีลังกาเชื่อว่า โมฮัมเหม็ด ฮาชิม โมฮาเหม็ด ซาห์ราน(Mohamed Hashim Mohamed Zahran ) เป็นหัวหน้ากลุ่มอิสลามิสต์ NTJ หรือกลุ่มที่แตกออกมา ในขณะที่กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มจัมมามิยาตัล มิลลาตู อิบราฮิม นั้นเป็นที่รู้จักน้อยกว่า และเชื่อกันว่า สมาชิกกลุ่มอิสลามิสต์นี้ร่วมอยู่ในการโจมตี
ซึ่งทางก่อการร้าย IS ประกาศแสดงความรับผิดชอบ
มีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเกือบ10,000 นายปูพรมทั่วประเทศสำหรับปฎิบัติการบุกจู่โจมและตรวจค้นอันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นหลังจากโบสถ์ชาวคริสต์และโรงแรมอีก 4 แห่งถูกโจมตี ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองหลวง
และทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 100 คน ที่มีชาวต่างชาติเป็นต้นว่า ชาวอียิปต์และซีเรียรวมอยู่ในนั้น
การยิงต่อสู้เกิดปะทุขึ้นในค่ำวันศุกร์(26) ระหว่างการบุกเข้าเซฟเฮาส์ที่กบดานในเซนธามารูธู (Sainthamaruthu)ที่อัมปารา(Ampara) เขตทางชายฝั่งตะวันออกของศรีลังกา ไม่ต่ำกว่า 15 รายถูกสังหาร รวมไปถึง 3 คนที่อยู่ในเสื้อกั๊กติดระเบิดและเด็กอีก 6 คน โฆษกกองทัพศรีลังกาแถลง
และพบว่าในกลุ่มผู้บาดเจ็บรวมไปถึงภรรยาและลูกสาวของซาห์ราน ครอบครัวของเขากล่าว
“ใช่ ภรรยาและบุตรสาวได้รับบาดเจ็บในระหว่างการปะทะ” โมฮาเหม็ด ฮาชิม มาธานิยา(Mohamed Hashim Mathaniya) น้องสาวของซาห์รานกล่าว และเสริมต่อว่า “ดิฉันถูกขอให้เดินทางเพื่อมาชี้ตัวพวกเขา แต่ดิฉันไม่แน่ใจว่าจะสามารถเดินทางไปได้” เธอกล่าวจากเมืองกัตตันกูดี (Kattankudy) ทางตะวันออกซึ่งเป็นฐานดั้งเดิมของซาห์ราน พี่ชาย
ในการบุกที่แยกออกไป คนขับรถของซาห์รานถูกจับ อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้วัตถุดิบสำหรับทำระเบิด แท่งดินระเบิดเจล(gelignite stick) และตลับลูกปืนเม็ดกลม (ball bearing) จำนวนมากถูกค้นพบในการตรวจค้นที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่เดียวกัน พร้อมไปกับแผ่นป้ายประกาศกลุ่มก่อการร้าย IS และชุดเครื่องแบบ กองทัพกล่าว
แต่ทว่าท่ามกลางการไม่ลงรอยระหว่างสิริเสนา และนายกรัฐมนตรีศรีลังกา รานิล วิกรามาสิงหะ คำสั่งของประธานาธิบดีศรีลังกาดูเหมือนจะไม่ศักดิสิทธิ์ เพราะถึงแม้ อ้างอิงจากสำนักข่าว ซินหัวของจีนระบุว่า สื่อท้องถิ่นศรีลังการายงานว่า เฮมาศิริ เฟอร์นันโด (Hemasiri Fernando) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของศรีลังกา ประกาศลาออกแล้ว แต่แหล่งข่าวใกล้ชิด 2 คนให้ข้อมูลกับรอยเตอร์วันเสาร์(27)ว่า ผบตร.ศรีลังกาไม่ยอมลาออกจากการร้องขอ สร้างความอับอายขายหน้าให้กับสิริเสนา ที่มีตำแหน่งเป็นถึงประธานาธิบดีท่ามกลางเหตุการณ์ร้ายที่ประจานไปทั่วโลก