เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – ศรีลังการวบตัวบุคคล 8 คน ซึ่งต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีโบสถ์คริสต์และโรงแรมหรูต่อเนื่องกันหลายแห่งในประเทศนี้เมื่อวันอาทิตย์ (21 เม.ย.) ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 200 คน นายกรัฐมนตรีของศรีลังกาแถลง
นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห แถลงว่า “จนกระทั่งถึงเวลานี้ ชื่อต่างๆ ซึ่งปรากฏออกมาล้วนแต่เป็นชื่อท้องถิ่น” แต่ทางเจ้าหน้าที่สืบสวนจะติดตามสืบสาวต่อไปว่า พวกคนร้ายที่ก่อเหตุมี “ความเกี่ยวข้องโยงใยกับต่างประเทศ” ใดๆ หรือไม่
เขายอมรับด้วยว่า “มีข้อมูลข่าวสาร” ก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุโจมตี และ “เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นมาแล้ว เราก็จะต้องตรวจสอบด้วยว่าทำไมจึงไม่ได้มีการดำเนินมาตรการระวังป้องกันต่างๆ อย่างถูกต้องเหมาะสม”
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าได้เห็นเอกสารซึ่งระบุว่า ปูจูธ จายาซุนดารา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของศรีลังกา ได้ส่งข่าวกรองแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ระดับสูง 10 คนเมื่อ 10 วันที่แล้ว โดยอ้างอิงหน่วยข่าวกรองต่างชาติแห่งหนึ่งที่รายงานว่า กลุ่มเอ็นทีเจ (เนชันแนล ทาวฮีธ จามาอัธ) กำลังวางแผนโจมตี “โบสถ์ชื่อดัง” รวมถึงสำนักงานข้าหลวงใหญ่ (สถานเอกอัครราชทูต) ของอินเดียในกรุงโคลัมโบของศรีลังกา ด้วยระเบิดฆ่าตัวตาย โดยที่เอ็นทีเจคือกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในศรีลังกา ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำลายพระพุทธรูปเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม วิกรมสิงเหกล่าวว่า สิ่งสำคัญเป็นลำดับแรกสำหรับรัฐบาลศรีลังกาในเวลานี้ จะต้องเป็นการ “จับกุมพวกผู้ก่อการร้ายเหล่านี้”
“เรื่องแรกก่อนอื่นใดเลยก็คือ เราจะต้องทำให้มั่นใจว่าลัทธิก่อการร้ายไม่ได้สามารถเชิดหน้าชูตาของมันได้ในศรีลังกา”
สำหรับเหตุคนร้ายบุกโจมตีโรงแรมระดับหรูและโบสถ์คริสต์ทั่วทั้งศรีลังกาในวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันอีสเตอร์ของศาสนาคริสต์ (วันที่ชาวคริสต์เชื่อว่าพระเยซูกลับฟื้นคืนชีพ 3 วันภายหลังสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน) มีรวมด้วยกันทั้งสิ้น 8 จุด นับเป็นความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดภายหลังจากสงครามกลางเมืองในศรีลังกายุติลงเมื่อ 1 ทศวรรษที่แล้ว
แหล่งข่าวหลายรายบอกกับเอเอฟพีว่า การก่อเหตุโจมตีด้วยระเบิดเหล่านี้ มีอย่างน้อย 2 รายซึ่งเป็นฝีมือของมือระเบิดฆ่าตัวตาย
