เอเจนซีส์ - ชาวอิเหนาเข้าคูหาหย่อนบัตรเลือกตั้งเมื่อวันพุธ (17 เม.ย.) โดยผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการบ่งบอกว่า โจโค วิโดโด กวาดคะแนนลอยลำ จ่อนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอินโดนีเซียสมัยที่สอง อย่างไรก็ดี คู่แข่งขันของเขาที่เป็นอดีตนายทหารใหญ่ อ้างว่าตนเองต่างหากที่ชนะ และเรียกร้องผู้สนับสนุนอย่ายอมปล่อยให้ชัยชนะของเขาถูกปล้นชิงไป
ในการเลือกตั้งคราวนี้ ผู้มีสิทธิออกเสียงจำนวนกว่า 190 ล้านคนของอินโดนีเซีย ประเทศที่ประกอบด้วยหมู่เกาะใหญ่น้อยกว่าหมื่นเกาะ ต้องเลือกว่าจะให้ใครเป็นประธานาธิบดี ระหว่างวิโดโด วัย 57 ปี กับ ปราโบโว ซูเบียนโต วัย 67 ปี ซึ่งเป็นอดีตนายทหารใหญ่และอดีตบุตรเขยของอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต
นอกจากนั้น นี่ยังเป็นครั้งแรกที่อินโดนีเซียจัดการเลือกตั้งทั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาในวันเดียวกัน รวมแล้วมีผู้ลงสมัครสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 245,000 คน
ทหารและกองกำลังป้องกันพลเรือนราว 2 ล้านคน ถูกจัดส่งไปควบคุมสถานการณ์ตามท้องที่ต่างๆ เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งรวมถึงในจังหวัดปาปัว ที่มีกลุ่มกบฏก่อความรุนแรงเพื่อแบ่งแยกดินแดนจากอินโดนีเซียมานานหลายทศวรรษ
แม้ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการกำหนดประกาศกันในเดือนหน้า แต่ผล “การนับคะแนนด่วน” จากสำนักสำรวจความคิดเห็นหลายแห่งก็ออกมาไม่กี่ชั่วโมงภายหลังปิดหีบ โดยที่มีทิศทางตรงกัน นั่นคือวิโดโดได้คะแนนราว 54% นำหน้าซูเบียนโตอยู่ระหว่าง 7.1% ถึง 11.6%
อย่างไรก็ดี ซูเบียนโต ซึ่งพ่ายแพ้วิโดโดแบบหวุดหวิดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีคราวที่แล้วเมื่อ 5 ปีก่อน ออกมาแถลงวา จากผลเอ็กซิตโพลที่ทำเป็นการภายใน และตัวเลขจาก “การนับคะแนนด่วน” ทีมหาเสียงของเขาเชื่อว่าเขาได้เสียงโหวตในระว่าง 52% ถึง 54%
ซูเบียนโตบอกด้วยว่า ได้เกิดเหตุจำนวนมากซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ที่สนับสนุนเขา ทว่าไม่ได้ให้รายละเอียด เพียงเต่เตือนให้อาสาสมัครทางฝ่ายเขาต้องคอยระวังป้องกันหีบบัตรลงคะแนนให้ดี
ทางด้านวิโดโดแถลงยืนยันว่า ผลการนับคะแนนด่วนบ่งชี้ว่าเขาได้เป็นประธานาธิบดีต่ออีกสมัย แต่ก็รบเร้าผู้สนับสนุนของเขาให้รอไปก่อน จนกว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะประกาศผลออกมาอย่างเป็นทางการ
การเลือกตั้งของอินโดนีเซียคราวนี้ยุติลงอย่างเป็นทางการเมื่อเวลา 13.00 น. ที่เกาะสุมาตรา แม้คูหาเลือกตั้งบางแห่งจากทั้งหมด 800,000 คูหาทั่วประเทศหมู่เกาะแห่งนี้ ยังคงเปิดให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์เนื่องจากความล่าช้าบางประการและผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเข้าคิวรออยู่จำนวนมาก
การเลือกตั้งที่ใช้เวลา 8 ชั่วโมงครั้งนี้มีขึ้นภายหลังการรณรงค์หาเสียงที่มีนโยบายเศรษฐกิจเป็นประเด็นหลัก และสอดแทรกด้วยประเด็นทางศาสนาอิสลามแนวทางอนุรักษนิยมที่กำลังมีอิทธิพลเพิ่มสูงขึ้น
อาจเป็นไปได้ว่ามีการประกาศชื่อผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีกันในคืนวันพุธ แม้ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการจะออกมาในเดือนหน้าก็ตาม และหากมีข้อโต้แย้งใดๆ สามารถร้องเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญที่ประกอบด้วยผู้พิพากษา 9 คน ซึ่งจะใช้เวลาวินิจฉัยภายใน 14 วัน
อาสาสมัครกว่า 10,000 คนกระจายอยู่ตามคูหาต่างๆ เพื่อพยายามป้องกันการโกงการเลือกตั้ง กระนั้น พรรคฝ่ายค้านกล่าวหาว่า มีความไม่ชอบมาพากลในรายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงตั้งแต่ช่วงก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งอาจส่งผลต่อคะแนนเสียงนับล้านคะแนน และเรียกร้องให้มีการดำเนินการทางกฎหมาย รวมทั้งขอให้ประชาชนออกมาแสดงพลังหากรัฐบาลเพิกเฉยต่อข้อกังวลนี้
วิโดโดนั้นลุยหาเสียงด้วยผลงานการผ่อนคลายกฎระเบียบและการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งเสนอสร้างถนน สนามบิน และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เพิ่มเติม โดยประกาศว่า การดำรงตำแหน่งสมัยแรกเป็นขั้นตอนในการจัดการลดความไม่เท่าเทียมและความยากจนของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่างไรก็ตาม ศาสนากำลังกลายเป็นประเด็นที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นอย่างชัดเจนในแดนอิเหนา ประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก ขณะที่กลุ่มมุสลิมเคร่งจารีตก็เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น
วิโดโด ซึ่งเป็นชาวมุสลิมสายกลางจากเกาะชวา ต้องขัดเกลาภาพลักษณ์ด้านศาสนาของตัวเอง หลังจากการหาเสียงแบบสาดโคลนและการเผยแพร่ข่าวปลอมทางออนไลน์ซึ่งกล่าวหาว่า เขาต่อต้านศาสนาอิสลาม เป็นคอมมิวนิสต์ หรือใกล้ชิดจีนมากเกินไป อันล้วนแต่เป็นข้อกล่าวหาที่สามารถสร้างความเสียหายทางการเมืองได้ทั้งสิ้น
กระนั้น การที่เขาตัดสินใจเลือกมารุฟ อามิน นักการศาสนาอิสลามสายอนุรักษนิยมวัย 76 ปี เป็นผู้ร่วมทีมในตำแหน่งรองประธานาธิบดี ก็กระตุ้นความกังวลว่านี่อาจกระทบต่อชื่อเสียงของอินโดนีเซียในฐานะประเทศมุสลิมสายกลาง
ทางด้านซูเบียนโต อดีตผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ลงเลือกตั้งคู่กับนักธุรกิจ ซานเดียกา อูโน และชูนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยการลดภาษีและลดราคาอาหาร รวมทั้งเพิ่มงบประมาณการทหารและการป้องกันประเทศ
ซูเบียนโตยังลอกเลียนนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยการประกาศหลักการ “อินโดนีเซียต้องมาก่อน” โดยจะทบทวนแผนการลงทุนของจีนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ความทะเยอทะยานทางการเมืองของซูเบียนโตถูกบ่อนทำลายจากเรื่องราวในอดีตเมื่อครั้งที่เขาสั่งอุ้มนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยขณะที่ระบอบเผด็จการซูฮาร์โตล่มสลายในปี 1998 อีกทั้งยังถูกกล่าวหาว่า ใช้ความโหดร้ายทารุณในติมอร์ตะวันออก
ซูเบียนโตที่พยายามปรับปรุงภาพลักษณ์ด้วยการโชว์ภาพบ็อบบี้ แมวตัวโปรดบนอินสตาแกรมส่วนตัว ประกาศว่า จะท้าทายผลการเลือกตั้ง ถ้าครั้งนี้ยังแพ้วิโดโดซ้ำสอง