xs
xsm
sm
md
lg

ประธาน'ฟ็อกซ์คอนน์'เล็งชิงปธน.ไต้หวัน คาดใส่เสื้อ“ก๊กมินตั๋ง”ชูนโยบายโปรปักกิ่ง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เทอร์รี กัว หรือ กัว ไถหมิง ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ มหาเศรษฐีร่ำร่วยที่สุดในไต้หวัน เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของรัฐบัญญัติความสัมพันธ์กับไต้หวัน ที่กรุงไทเป เกาะไต้หวัน เมื่อวันอังคาร (16 เม.ย.)
รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - เทอร์รี กัว หรือ กัว ไถหมิง ประธานบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ ยอมรับว่ากำลังชั่งใจลงสมัครเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันที่จะมีขึ้นในปีหน้า โดยมีแนวโน้มสูงลงสนามในนามพรรคก๊กมินตั๋งที่ชูนโยบายเป็นมิตรกับปักกิ่ง

กัวให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ระหว่างเดินทางไปร่วมงานครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ไต้หวัน-อเมริกาในวันอังคาร (16 เม.ย.) แต่ปฏิเสธที่จะฟันธงว่า จะลงสมัครในนามพรรคใด เพียงบอกว่า ถ้าลงในนามพรรคก๊กมินตั๋ง (เคเอ็มที) ซึ่งเวลานี้เป็นฝ่ายค้านและชูนโยบายเป็นมิตรกับจีน ก็จะดำเนินการตามกระบวนการมาตรฐานของเคเอ็มที และเสริมว่า จะตัดสินใจเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด

กัวบอกว่า ปี 2020 จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับไต้หวัน และว่า สาเหตุที่ทำให้สถานการณ์กับจีนตึงเครียดขึ้นคือ ไต้หวันมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และการทหารที่จะมีผลยาวนานตลอด 20 ปีข้างหน้า

ทางด้านเคเอ็มทีแถลงว่า กัวเป็นสมาชิกพรรคมากว่า 50 ปี และเคยให้เงินกู้ปลอดดอกเบี้ย 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในนามแม่ของเขาเมื่อปี 2016 ซึ่งสะท้อนถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพรรค

อย่างไรก็ดี เคเอ็มทีไม่ได้ตอบคำถามของสื่อว่า กัวมีคุณสมบัติเหมาะสมในการลงสมัครเป็นตัวแทนพรรคเพื่อลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวัน ซึ่งมีการแข่งขันอย่างดุเดือดอยู่แล้วหรือไม่

ตามรายงานของนิตยสารฟอร์บส์นั้น กัว ซึ่งปัจจุบันอยู่ในวัย 69 ปี เป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในไต้หวัน มีสินทรัพย์สุทธิ 7,600 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันจันทร์ (15) เขาเพิ่งให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ว่า มีแผนลงจากตำแหน่งเร็วๆ นี้เพื่อเปิดทางให้ผู้บริหารรุ่นถัดไป หลังจากนั้นไม่นาน ฟ็อกซ์คอนน์แถลงว่า กัวจะยังคงเป็นประธานของบริษัท แต่มีแผนวางมือจากการทำงานประจำวัน

กัวเกิดที่ไทเปเมื่อปี 1950 พ่อแม่เป็นชาวจีนที่หนีออกจากแผ่นดินใหญ่หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์ชนะในสงครามกลางเมือง เขาทำงานนอกเวลาเพื่อส่งตัวเองเรียนวิชาบริหารจัดการด้านการขนส่งสินค้าในมหาวิทยาลัยที่ไต้หวัน

เขาเริ่มต้นธุรกิจในปี 1974 โดยตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนทีวีด้วยเงินลงทุน 3,250 ดอลลาร์จากแม่ ต่อมาเริ่มผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และขยับขยายจนปัจจุบันถือเป็นบริษัทรับจ้างผลิตและประกอบสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยรายได้ปีละ 168,520 ล้านดอลลาร์ ซึ่งครึ่งหนึ่งมาจากการเป็นซัปพลายเออร์ให้แอปเปิล

ปีที่แล้ว กัวได้ร่วมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในพิธีวางศิลาฤกษ์โรงงานไฮเทคของฟ็อกซ์คอนน์ในรัฐวิสคอนซินที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ต้นปีนี้ฟ็อกซ์คอนน์ประกาศทบทวนแผนการสร้างโรงงานดังกล่าวเนื่องจกสภาพแวดล้อมในตลาดที่เปลี่ยนแปลงทั่วโลก

เมื่อถูกผู้สื่อข่าวซักถามว่า จะแจ้งทรัมป์หรือไม่ถ้าตัดสินใจลงเลือกตั้ง กัวตอบว่า คงบอกคนไต้หวันเท่านั้น เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผู้นำสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ไต้หวันกำลังจัดเตรียมการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนมกราคมปีหน้า ขณะที่ความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบไต้หวันอยู่ในภาวะตึงเครียด โดยเฉพาะหลังจากไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันคนปัจจุบันขึ้นครองอำนาจ เนื่องจากปักกิ่งระแวงว่าเธอและพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของเธอ เป็นพวกต้องการประกาศแยกไต้หวันไปเป็นประเทศเอกราชอย่างเป็นทางการ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ กัวกล่าวว่า สันติภาพคืออาวุธสำคัญที่สุด และไต้หวันไม่จำเป็นต้องซื้ออาวุธมากเกินไป แต่ต้องป้องกันตัวเองอย่างเหมาะสมเท่านั้น

แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นี้โดยตรงคนหนึ่งเผยว่า กัวอาจประกาศการตัดสินใจเรื่องการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเร็วที่สุดในวันอังคาร ก่อนเดินทางไปโรงงานในเมืองเซินเจิ้นของจีนในวันรุ่งขึ้น (17)

สำหรับพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า คาดว่าจะประกาศชื่อผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคชิงเก้าอี้ผู้นำประเทศในเดือนหน้า โดยผู้ที่คาดว่าจะลงชิงชัยมีทั้งประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน และอดีตนายกรัฐมนตรีวิลเลียม ไหล
กำลังโหลดความคิดเห็น