เอเอฟพี – ประธานาธิบดี มุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้ระบุวันนี้ (15 เม.ย.) ว่า “พร้อมจะเดินทางไปทุกที่” เพื่อพบกับผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนืออีกเป็นครั้งที่ 4 พร้อมยกย่องความพยายามของผู้นำโสมแดงที่จะสานต่อการเจรจานิวเคลียร์กับสหรัฐฯ
คิม แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12) ว่า ยังยินดีจัดประชุมซัมมิตกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นครั้งที่ 3 หากวอชิงตัน “เสนอเงื่อนไขที่รับได้ทั้ง 2 ฝ่าย” ภายหลังการพบปะที่ฮานอยเมื่อเดือน ก.พ. ล้มเหลวไม่เป็นท่า
มุน ซึ่งรับบทคนกลางประสานรอยร้าวระหว่างวอชิงตันกับเปียงยางกล่าวยกย่อง “ความตั้งใจจริงของผู้นำ คิม ที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี” และแสดงความปรารถนาที่จะพบ คิม อีกครั้งจากที่เคยเจอกันมาแล้ว 3 หน
“เมื่อใดที่เกาหลีเหนือพร้อม ผมหวังว่าเราสองเกาหลีคงจะได้นั่งลงพูดคุยกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ไหน หรือรูปแบบใดก็ตาม” มุน กล่าวขณะประชุมร่วมกับร่วมกับบรรดาผู้ช่วย
“ผมจะพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อให้การประชุมซัมมิตสองเกาหลีเป็นรากฐานไปสู่โอกาสที่ยิ่งใหญ่และผลลัพธ์ที่สำคัญยิ่งกว่า”
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ มุน ได้เปิดการประชุมซัมมิตกับ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยหวังกอบกู้การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือที่ส่อแววหยุดชะงักลงอีกครั้ง
แม้ซัมมิตฮานอยเมื่อวันที่ 27-28 ก.พ. จะเป็นเวทีที่ ทรัมป์ และ คิม ได้สร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แต่ทั้ง 2 ฝ่ายกลับไม่สามารถบรรลุข้อตกลงที่เป็นรูปธรรมเพื่อนำไปสู่การผ่อนคลายคว่ำบาตร หรือปิดฉากกิจกรรมนิวเคลียร์และขีปนาวุธในเกาหลีเหนือ
สหรัฐฯ กล่าวโทษฝ่ายโสมแดงว่ายื่นเงื่อนไขยุติคว่ำบาตรทั้งหมดแลกกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างจำกัด ขณะที่เปียงยางแย้งว่าฝ่ายตนเพียงร้องขอให้สหรัฐฯ คลายมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนเท่านั้น
คิม กล่าวต่อที่ประชุมสภาประชาชนสูงสุดเกาหลีเหนือเมื่อวันศุกร์ (12) ว่า ซัมมิตที่ฮานอยได้จุดประเด็นคำถามสำคัญว่า สหรัฐฯ มีความตั้งใจจริงที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเปียงยางหรือไม่ แต่ตนจะรอคอยจนถึง “สิ้นปีนี” เพื่อให้สหรัฐฯ ได้มีเวลาในการ “ตัดสินใจอย่างห้าวหาญ”
ด้าน ทรัมป์ เองก็ยังเปิดโอกาสในการพบปะ คิม และยืนยันว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวของทั้งคู่อบอุ่นเหมือนเดิม