มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับลงในวันอังคาร(9เม.ย.) คาดคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ติด ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งแรง หลังประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งสัญญาณเปิดสงครามการค้าสมรภูมิใหม่คราวนี้กับยุโรป ขณะที่ทองคำปิดบวก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 42 เซนต์ ปิดที่ 63.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 49 เซ็นต์ ปิดที่ 70.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯมีกำหนดเผยแพร่ข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองของประเทศในวันพุธ(10เม.ย.) ในขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลต์ส คาดหมายว่าสต๊อกน้ำมันดิบน่าจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 เมษายน หลังจากก่อนหน้าเพิ่มขึ้นมา 2 สัปดาห์ติดต่อกัน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(9เม.ย.)ปิดลบ โดยเอสแอนด์พี500ขยับลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 วัน จากคำขู่เปิดสงครามการค้ารอบล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่นักลงทุนจับตาดูอย่างระมัดระวังรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆซึ่งจะค่อยๆทยอยเผยแพร่ออกมา
ดาวโจนส์ ลดลง 190.44 จุด (0.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 26,150.58 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 17.57 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,878.20 จุด แนสแดค ลดลง 44.61 จุด (0.56 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,909.28 จุด
พวกนักวิเคราะห์ส่งเสียงเตือนเกี่ยวกับขาลงของตลาดหุ้น หลังจากผันผวนมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยเฉพาะแรงกดดันรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทต่างๆ ซึ่งคาดหมายว่าจะออกมาอ่อนแอกว่าไตรมาสที่ผ่านๆมา
นอกจากนี้แล้วตลาดยังถูกซ้ำเติมจากความเห็นของทรัมป์ที่กระพือความกังวลในหมู่นักลงทุน ด้วยการขู่รีดภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปมูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์ ตอบโต้กรณีที่อียูอุดหนุนแอร์บัส ยักษ์ใหญ่ด้านการบิน ที่ทำให้ แอร์บัส มีความได้เปรียบเหนือ โบอิ้ง ในธุรกิจการบิน
ถ้อยแถลงดังกล่าวส่งสัญญาณว่าทำเนียบขาวจะปักหมุดเจรจาอย่างเข้มข้นกับยุโรปโดยเร็วที่สุดหลังจากสามารถคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าที่ยืดเยื้อยาวนานกับจีนได้แล้ว
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(9เม.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ จากดอลลาร์อ่อนค่าลงและความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,308.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์