เอเจนซีส์ – ศาลฮ่องกงตัดสิน ผู้นำขบวนการอารยะขัดขืน “อ็อกคิวพาย” หรือ “ขบวนการร่ม” มีความผิดฐานก่อกวนความสงบสุขของสาธารณชน จากการประท้วงใหญ่เมื่อ 5 ปีที่แล้วซึ่งได้ยึดครองพื้นที่ใจกลางเกาะฮ่องกงเอาไว้เป็นเวลาหลายเดือน คำตัดสินนี้ถูกนักเคลื่อนไหวและชาติตะวันตกระบุว่า สะท้อนถึงเสรีภาพที่ถูกปิดกั้นมากขึ้นในฮ่องกงภายใต้การปกครองของปักกิ่ง
พวกผู้สนับสนุนกลุ่มใหญ่พากันปรบมือให้กำลังใจจำเลยทั้ง 9 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีศาสตราจารย์นิติศาสตร์ 1 คน, สมาชิกรัฐสภาฮ่องกง 2 คน และอดีตแกนนำนักศึกษา ภายหลังจากผู้พิพากษาอ่านคำตัดสินเมื่อวันอังคาร (9 เม.ย.)
จำเลย 3 คนได้แก่ เบนนี ไต้ ศาสตราจารย์นิติศาสตร์ วัย 54 ปี, ชาน คินมุน ศาสตราจารย์สังคมวิทยาวัย 60 ปี และจู เหยาหมิง นักเทศน์เกษียณอายุซึ่งอยู่ในวัย 75 ปี ถูกฟ้องร้องว่า มีความผิดฐานมีบทบาทนำในการวางแผนและปลุกระดมผู้สนับสนุน ระหว่างการประท้วงยึดถนนขัดขวางการสัญจรในเขตเซนทรัล และแอดมิรัลตี ของฮ่องกงเอาไว้เป็นเวลา 79 วันเมื่อปีปี 2014 พวกเขาถูกตัดสินว่า ได้กระทำความผิดโดยสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มนักศึกษาที่เรียกตัวเองว่า “ขบวนการร่ม” ก่อกวนความสงบสุขของสาธารณชน
ไต้และชาน ยังมีความผิดฐานปลุกปั่นให้มีการก่อกวนความสงบสุข จำเลยทั้งสามต่างปฏิเสธความผิดทุกข้อกล่าวหา
ผู้พิพากษาจอห์นนี ชาน ตั้งข้อสังเกตในสรุปคำวินิจฉัยว่า แนวทางอารยะขัดขืนและเสรีภาพในการแสดงออกได้รับการยอมรับในฮ่องกง แต่ไม่สามารถนำมาแก้ต่างความผิดทางอาญาในการก่อกวนความสงบสุขของสาธารณชนและการริดรอนสิทธิของบุคคลอื่นได้
จำเลยอีก 6 คนซึ่งรวมถึงทันยา ชาน และชิว คาชุน สมาชิกสภาฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตย, แกนนำนักศึกษา 2 คนคือ อีสัน ชุง และทอมมี เฉิง, นักเคลื่อนไหว ราเชล หว่อง และลี วิงตัต สมาชิกพรรคเดโมเครติก ต่างถูกพิพากษาว่า มีความผิดฐานก่อกวนความสงบสุขอย่างน้อยหนึ่งกระทง
ทั้งนี้ ผู้พิพากษายังไม่ได้ประกาศบทระวางโทษจำเลยเหล่านี้
จำเลยทั้ง 9 ถูกกล่าวหาว่า ยั่วยุและปลุกระดมกะเกณฑ์คนเข้าร่วมประท้วง เพื่อกดดันให้ปักกิ่งยินยอมมอบประชาธิปไตยเต็มรูปแบบให้ฮ่องกง โดยที่อัยการใช้ระบบกฎหมายจารีตประเพณีที่มีโทษหนักกว่ากฎหมายลายลักษณ์อักษรในการพิจารณาคดีจำเลยกลุ่มนี้ ซึ่งถือเป็นการดำเนินการที่ไม่ปกตินัก เท่ากับว่า แกนนำการประท้วงแต่ละคนอาจถูกตัดสินจำคุกสูงสุด 7 ปี แทนที่จะเป็น 3 เดือน
การประท้วงดังกล่าวที่กินเวลา 79 วันช่วงปลายปี 2014 ในระยะต้นๆ มีผู้ชุมนุมมากเป็นแสนคนเข้าร่วม อย่างไรก็ดี แรงสนับสนุนได้ลดลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งการชุมนุมเลิกราไปโดยไม่สามารถกดดันทางการให้อ่อนข้อได้
เดวิด เหลียง อัยการสูงสุดของฮ่องกง ระบุว่า ไต้, ชาน และจู เป็นตัวการหลักที่ริเริ่มวางแผนการประท้วงล่วงหน้าถึงหนึ่งปี และสำทับว่า การประท้วงดังกล่าวทำให้สาธารณชนเกิดความไม่สะดวกสบาย “อย่างไร้เหตุผล” นานเกือบ 3 เดือน
นับจากที่อังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนกลับให้จีนในปี 1997 มีเสียงวิจารณ์ว่า จีนผิดสัญญาในการคงการปกครองตนเองและเสรีภาพระดับสูงของฮ่องกงภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ”
ในช่วงเวลาเกือบ 5 ปีนับจากการประท้วงของกลุ่มอ็อกคิวพาย นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย นักการทูต ผู้นำธุรกิจ ต่างแสดงความกังวลอย่างชัดเจนเกี่ยวการที่ปักกิ่งเข้าคุมเข้มเสรีภาพของฮ่องกงมากขึ้น
สมาชิกรัฐสภาฮ่องกงฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย ได้ถูกขับออกจากสภา ด้วยข้อหาต่างๆ เช่น สาบานตัวในพิธีเข้ารับตำแหน่งโดยกล่าวถ้อยคำดูหมิ่นจีน พรรคการเมืองที่ส่งเสริมให้ฮ่องกงประกาศเอกราชแยกตัวจากจีนก็ถูกแบน ส่วนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยถูกตัดรอนด้วยข้อหาขาดคุณสมบัติไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ขณะบรรณาธิการอาวุโสของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ของอังกฤษ ผู้ประกาศจัดการเสวนากับนักเคลื่อนไหวเรียกร้องเอกราชให้ฮ่องกงที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ก็ถูกขับออกจากฮ่องกง
