เอเจนซีส์ - รายงานเบื้องต้นของคณะผู้สอบสวนเมื่อวันพฤหัสบดี (4 เม.ย.) ยืนยัน นักบินเอธิโอเปียทำตามกระบวนการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่โบอิ้งแนะนำซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้ง แต่ไม่สามารถเข้าควบคุมเครื่องบินได้ จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมเมื่อเดือนที่แล้วที่ผู้อยู่บนเครื่องบินเสียชีวิตยกลำ 157 คน
ผลการสอบสวนเบื้องต้นนี้ ดูเหมือนจะย้ำยืนยันความวิตกกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบควบคุมการบินอัตโนมัติของเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 เนื่องจากเป็นข้อมูลคล้ายๆ กับสิ่งซึ่งเกิดขึ้นตอนที่เครื่องบินโมเดลเดียวกันนี้ของสายการบินไลอ้อนแอร์ของอินโดนีเซีย ตกเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตยกลำ 189 คน
รายงานเบื้องต้นฉบับเต็มยังไม่ได้มีการเผยแพร่ต่อสาธารณชน แต่จากฉบับร่างซึ่งสำนักข่าวเอเอฟพีได้เห็นมา ระบุว่าหลังจากเครื่องบินโดยสารของเอธิโอเปียนแอร์ไลน์สทะยานขึ้นฟ้าไม่นาน อุปกรณ์เซนเซอร์ที่คอยตรวจบันึกระดับของเครื่องบินก็เริ่มส่งข้อมูลที่ผิดพลาด ทำให้ระบบซอฟต์แวร์อัตโนมัติเริ่มทำการแก้ไข ด้วยการดึงให้จมูกเครื่องบินลงต่ำ
ในการแถลงรายงานเบื้องต้นนี้ของ แด็กมาวิต โมเกส รัฐมนตรีคมนาคมเอธิโอเปีย เมื่อวันพฤหัสบดี (4) ก็ระบุว่า นักบินของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ดำเนินการตามกระบวนการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งหมดที่โบอิ้งแนะนำหลายครั้ง หลังจากเครื่องบินปักหัวลงซ้ำๆ แต่ไม่สามารถควบคุมเครื่องได้ ซึ่งเท่ากับเป็นการชี้ชัดว่า นักบินไม่ได้ใช้กระบวนการที่ไม่ถูกต้อง
แด็กมาวิตบอกว่า รายงานเบื้องต้นฉบับนี้เสนอแนะว่า “ทางผู้ผลิตจะต้องศึกษาทบทวนระบบควบคุมการบินของเครื่องบินนี้”
รายงานเบื้องต้นฉบับนี้ไม่ได้กล่าวโทษผู้ใดหรือสิ่งใด ซึ่งเป็นไปตามกฎระหว่างประเทศว่าด้วยอุบัติเหตุทางอากาศ รวมทั้งไม่ได้เปิดเผยการวิเคราะห์เที่ยวบินโดยละเอียดที่คาดว่าต้องใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะเสร็จสิ้นการจัดทำรายงานขั้นสุดท้าย
ทว่า รายงานเสนอแนะให้โบอิ้งตรวจสอบระบบควบคุมการบินของ 737 แม็กซ์ และเรียกร้องให้พวกหน่วยงานกำกับตรวจสอบยืนยันว่า ปัญหาได้รับการแก้ไขแล้วก่อนอนุญาตให้เครื่องบินโมเดลนี้ให้บริการได้อีกครั้ง
เครื่องบินโมเดล โบอิ้ง 737 แมกซ์ ถูกประเทศต่างๆ และสายการบินต่างๆ ทั่วโลกสั่งระงับการใช้งานหรือสั่งห้ามบินผ่านน่านฟ้า ภายหลังอุบัติเหตุของเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ส ซึ่งเกิดขึ้นไม่ถึง 6 เดือนหลังจากครื่องบินของไลอ้อนแอร์ดิ่งทะเลชวาในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ในรายงานเบื้องต้นเรื่องการตกของเครื่องบินไลอ้อนแอร์ระบุว่า นักบินสูญเสียความสามารถในการเข้าควบคุมเครื่องบิน หลังจากซอฟต์แวร์เอ็มแคส ซึ่งเป็นระบบป้องกันเครื่องบินสูญเสียแรงยกอัตโนมัติที่สั่งให้เครื่องบินปักหัวลงซ้ำๆ ได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดจากอุปกรณ์เซ็นเซอร์
รายงานทั้งสองฉบับทำให้ข้อสงสัยพุ่งไปที่ระบบเอ็มแคสที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับ 737 แม็กซ์เวอร์ชันล่าสุดโดยเฉพาะ
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (3) หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ยังรายงานว่านักบินของเอธิโอเปียได้ปิดระบบป้องกันการสูญเสียแรงยกอัตโนมัติ แต่สุดท้ายต้องเปิดใหม่เนื่องจากไม่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้
แด็กมาวิตไม่ได้ให้รายละเอียดสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องนักบินระหว่างช่วงนาทีสุดท้ายก่อนเครื่องตก แต่กล่าวว่า เครื่องทะยานขึ้นจากสนามบินปกติและนักบินทั้งสองคนมีคุณสมบัติเหมาะสมในการบังคับเครื่องบิน
ขณะเดียวกัน โบอิ้งซึ่งกำลังพยายามฟื้นความเชื่อมั่นของสาธารณชน ได้เผยแพร่ภาพประธานบริหารบริษัทร่วมทดสอบการบิน 737 แม็กซ์ที่เปลี่ยนมาใช้ระบบป้องกันการสูญเสียแรงยกเวอร์ชันปรับปรุงใหม่เมื่อวันพุธ
สัปดาห์ที่แล้ว ผู้ผลิตเครื่องบินเบอร์หนึ่งของอเมริกาแห่งนี้ยังเชิญนักบินและผู้สื่อข่าวนับร้อยร่วมชมการนำเสนอระบบเอ็มแคสเวอร์ชันใหม่ ซึ่งรวมถึงการปรับให้ระบบสั่งเครื่องบินกดหัวลงเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และอนุญาตให้นักบินเข้าควบคุมเครื่องแทน
ทางด้านสำนักงานการบินสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) แถลงเมื่อวันจันทร์ (1) ว่า โบอิ้งยังต้องดำเนินการอีกหลายอย่างในการแก้ไขซอฟต์แวร์ดังกล่าวก่อนที่จะส่งให้เอฟเอเอตรวจสอบ