xs
xsm
sm
md
lg

In Clips: สื่อนอกรายงาน ปชช.ไทยทยอยออกไปใช้สิทธิคึกคัก ในหลวง ร.10 ทรงส่งสารเตือนก่อนเลือกตั้ง ขอ “ความมั่นคง-ความสุข”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี/เอพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - สื่อทั่วโลกรายงานประชาชนชาวไทยออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งวันนี้ (24 มี.ค) ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไทยเข้าสู่โหมดรัฐประหารเมื่อปี 2014 นายกรัฐมนตรีไทย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมผู้มีชื่อเสียงออกไปใช้สิทธิคึกคัก นักวิเคราะห์ฟันธงเชื่อรัฐบาลชุดใหม่ไม่มีความมั่นคงและมีอายุสั้น รอยเตอร์ชี้ ก่อนเลือกตั้งเริ่มเปิดฉาก ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงร้องขอความมั่นคงและความสุขให้แก่ประเทศ

เอเอฟพีรายงานวันนี้ (24 มี.ค.) ว่า การเลือกตั้งวันอาทิตย์ (24) เป็นการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มสนับสนุนกลุ่มรัฐประหารภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และกลุ่มจักรกลเลือกตั้งทางการเมืองของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่ชนะมาทุกสมัย รวมไปถึงคลื่นของผู้มีสิทธิ์หน้าใหม่ที่จะเข้ามาใช้สิทธิ์ครั้งแรกวันนี้ (24)

หนึ่งในผู้ออกมาใช้สิทธิเป็นนักธุรกิจหญิง อภิญาดา สวาราชร (Apiyada Svarachorn) ได้หย่อนบัตรเลือกตั้งที่คูหาแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯพร้อมกับกล่าวว่า “ประชาชนต้องการโหวต” พร้อมเสริมว่า สังคมยังคงแบ่งออกเป็น 2 ส่วน

ด้าน วษา อนุพัมนต์ (Wasa Anupamnt ) อาชีพแพทย์วัย 28 ปี กล่าวว่า “พวกเราไม่มีสิทธิ์ตัดสินด้วยตัวเองมาเป็นเวลา 5 ปีแล้วในเวลานี้” และชี้ว่า “รู้สึดตื่นเต้นมากสำหรับการเลือกตั้งรอบนี้”

รอยเตอร์รายงานว่า ได้มีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศเกิดขึ้นในช่วงค่ำวันเสาร์ (23) เป็นประกาศของสำนักพระราชวัง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ เลขาธิการธิการพระราชวังอัญเชิญพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ได้พระราชทานไว้ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ ๖ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี วันพฤหัสบดี ที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒ ความตอนหนึ่งว่า

“ขอให้ทราบถึงสิ่งสำคัญในการปกครองไว้ว่า ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”

ทั้งนี้ ทรงมีพระราชประสงค์ให้ประชาชนในชาติ ตลอดจนข้าราชการทุกหมู่เหล่า ทั้งข้าราชการพลเรือน ทหาร และตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความมั่นคงของประเทศชาติและบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน ได้ทบทวนและตระหนักถึงพระบรมราโชวาทที่ได้พระราชทานไว้ ด้วยทรงมีความห่วงใยในความมั่นคงของประเทศชาติ ความรู้สึกและความสุขของประชาชน จึงได้พระราชทานเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และเป็นการเตือนสติ ให้น้อมนำมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความสมัครสมานสามัคคี ความมั่นคงของชาติบ้านเมือง และความสุขของประชาชน เป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงรักและห่วงใยในชาติบ้านเมืองและประชาชนมาโดยตลอด

รอยเตอร์รายงานว่า แถลงการจากสำนักพระราชวังมีใจความว่า “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกัวลถึงความมั่นคงประเทศและความรู้สึกในความสุขของประชาชน ดังนั้นพระองค์ทรงต้องการส่งกำลังใจและการสนับสนุนพร้อมกับเตือนสติมายังทุกคนให้นำความสามัคคี ความมั่นคงของประเทศ และความสุขของประชาชน”

ทางสำนักพระราชวังกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงมีกระแสรับสั่งให้อัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระเจ้าอยู่หัวรัฐกาลทมี่ 9 ที่ทรงได้เคยพระราชทานไว้เมื่อปี 1969 หรือปีตามพุทธศักราชปี 2512 ที่มีข้อความตอนหนึ่ง ขอให้ส่งเสริมคนดีเพื่อปกครองประเทศ และป้องกันคนไม่ดีจากอำนาจและการสร้างความวุ่นวาย

ทั้งนี้ ในช่วงต้นวันเสาร์ (23) กลุ่มสังเกตการณ์นานาชาติออกมาร้องว่าทางกลุ่มถูกจำกัดในการตัดสินการเลือกตั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้รับอนุญาตช้าเกินไปที่จะสามารถเข้าไปสังเกตได้ทุกจุดของประเทศไทย

โดยเครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี ANFREL (Asian Network for Free Elections) ที่มีฐานอยู่ในกรุงเทพฯได้ส่งเจ้าหน้าที่ 80 คนออกไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่มีผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด 50.4 ล้านคน โดยทางกลุ่มยื่นขอไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่การอนุญาตเพิ่งออกมาในวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ถึงครึ่งสามารถออกไปทำหน้าที่ได้

นอกจากนี้ ยังพบว่าบรรดากลุ่มสิทธิมนุษยชนได้เรียกร้องให้รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์อนุญาตให้ “ผู้สังเกตการณ์นานาชาติ” สามารถเข้าสังเกตการณ์เลือกตั้งวันนี้ได้ แต่พบว่ามีแต่กลุ่ม ANFREL ที่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ พบว่า ในวันอาทิตย์ (24) มีคูหาเลือกตั้งทั้งหมด 93,200 คูหา ใน 77 จังหวัดได้เริ่มเปิดในเวลา 08.00 น.

ซึ่งสื่อไทยรายงานว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเดินทางไปใช้สิทธิ์ที่คูหาใต้ทางด่วน ซ.ประดิพัทธ์ 5 ในเวลา 08.20 น. โดยเขาอยู่ในลำดับที่ 165 ขณะที่ภริยา นางนราพร จันทร์โอชา ลำดับที่ 162  ท่ามกลางสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศให้ความสนใจติดตามการลงคะแนนของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นจำนวนมาก จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัยจำนวน 30 นาย นอกจาก พลเอก ประยุทธ์ แล้ว พบว่า มีผู้มีชื่อเสียงในสังคมได้ออกไปใช้สิทธิ รวมไปถึงดารานักแสดง

อย่างไรก็ตาม เอพีรายงานว่า เชื่อว่า รัฐบาลที่จะมาจากการเลือกตั้งคาดว่าจะไม่มีความมั่นคงและมีอายุสั้น

โดย ผศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า “มันจะไม่มีเสถียรภาพ” และกล่าวต่อว่า “ไม่ว่าพรรคใดชนะ ข้างประยุทธ์หรือข้างทักษิณ ทั้งรัฐบาลทั้งสองฝ่ายจะอ่อนแอและไม่มีความมั่นคง รัฐบาลอาจสามารถล้มได้ภายใน 1 ปี หรือราวปีครึ่ง และพวกเราอาจจะได้มีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้งที่ค่อนข้างเร็ว”

เอพีชี้ว่า หากว่าพรรคของประยุทธ์ชนะ จะสามารถสนับสนุนการออกมาอ้างในฐานะผู้ปกป้องสถาบันได้สำเร็จ โดยนักวิจารณ์ต่างกล่าวว่า ระบบการเมืองที่ออกแบบโดยกองทัพนั้นไม่มีความมั่นคงเป็นเพราะระบบใหม่นี้ไม่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และจะเป็นการเริ่มต้นความยุ่งยากรอบใหม่ของไทย

เอพีฟันธงว่า เชื่อว่าจะไม่มีพรรคใดได้เสียงมากพอที่จะสามารถได้เป็นนายกฯเพื่อจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว

เอพีรายงานไปถึง “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้มีบารมีทางการการเมืองนอกประเทศว่า ในวันศุกร์(15)ที่ฮ่องกงท่ามกลางความยินดีของพิธีสมรสของบุตรสาวคนเล็ก แพทองธาร ชินวัตร และเจ้าบ่าว ปิฎก สุขสวัสดิ์ ทักษิณประกาศต่อหน้าผู้มีเกียรติว่า “อย่างลืมผมและพันธมิตรทางการเมืองของผมเมื่อพวกคุณออกไปเลือกตั้ง”

โดยสื่อไทยรายงานว่า ทักษิณประกาศผ่านกลางงานแต่งงานอุ๊งอิ๊งว่า “เราชนะแน่นอน” ซึ่งทางทักษิณได้ชี้ว่า วันนี้กลัวว่าห้องจะไม่พอ เพราะคนมาเยอะ แต่การเลือกตั้งเราชนะแน่นอน เป็นเสียงตัวแทนวันที่ 24 มี.ค. ที่จะมีการเลือกตั้งมันเป็นเสียงของฝ่ายประชาธิปไตยที่เข้มแข็งมาก
เพราะว่าประเทศไทยถูกลิดรอนสิทธิขาดโอกาสมา 5 ปี วันนี้ประเทศไทยกำลังรอคอยที่จะบอกว่าคนไทยอยากเห็นเสรีภาพ เศรษฐกิจ ที่กลับมาเฟื่องฟู อยากเห็นความเชื่อถือจากทั่วโลก

ส่วนใหญ่คนจะบินกลับไปเพื่อใช้สิทธิในวันที่ 24 มี.ค. เพราะไม่มีใครอยากพลาดการเลือกตั้ง เพราะ 5 ปีแล้วที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิต้องขอขอบคุณที่เวลากระชั้นชิดยังอุตส่ามาและกลับไปใช้สิทธิ ในฐานะคนไทยที่อยากเปลี่ยนแปลงประเทศ


ในขณะที่ จอห์น ซีออร์เซียรี (John Ciorciari) ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำมหาวิทยาลับมิชิแกนกล่าวแสดงความเห็นว่า “หากพรรคเพื่อไทยได้จำนวนมากพอที่จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าผู้นำกองทัพจะมีปฎิกริยาอย่างไรในเรื่องนี้” และเสริมต่อว่า “ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเช่นใด มันไม่ดูเหมือนว่าจะสามารถยุติวิกฤตการเมืองที่เรื้อรังของประเทศไทยได้”


















กำลังโหลดความคิดเห็น