เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - ทุนจีนสยายปีกผ่านโครงการโครงสร้างพื้นฐาน หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง หรือเส้นทางสายไหมใหม่ เข้าไปถึงยุโรปเหนือแล้ว พบวันศุกร์(8 มี.ค) มีการร่วมลงนามเอกสารความเข้าใจระหว่างบริษัท ไฟเนสต์ เบย์ แอเรีย เดเวลลอพเมนต์ (Finest Bay Area Development ) และบริษัททุนยักษ์ใหญ่จีน ทัชสโตน แคปิตอล พาทเนอร์ส(Touchstone Capital Partners) ในการลงทุนจำนวน 15 พันล้านยูโร หรือราว 17 พันล้านดอลลาร์สร้าง อุโมงค์รถไฟใต้น้ำลอดผ่านอ่าวฟินแลนด์ระยะทาง 103 กิโลเมตรเชื่อมเมืองหลวงของฟินแลนด์และเอสโตเนียเข้าด้วยกัน
RT สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้(9 มี.ค)ว่า ถือเป็นโปรเจกต์ภายใต้โครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” อ้างอิงจากรอยเตอร์ที่ต้องการสร้างอุโมงค์รถไฟลอดใต้อ่าวฟินแลนด์สำหรับการสัญจรระหว่าง 2 ชาติที่ต่างต้องการให้มีการเชื่อมทางคมนาคมระหว่างกันนอกเหนือจากเรือเฟอร์รีและเครื่องบินมานานแล้ว
รอยเตอร์ชี้ว่า หากสร้างอุโมงค์รถไฟลอดใต้ทะเลน้ำแข็งสำเร็จจะสามารถย่นระยะเวลาการเดินทางด้วยเรือโดยสารเฟอร์รีได้ลงถึง 20 นาทีจากปกติที่ผู้โดยสารเรือเฟอร์รีจากเอสโตเนียหลายหมื่นคนใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงข้ามเข้ามาทำงานในฟินแลนด์ในแต่ละวัน
สื่อรัสเซียชี้ว่า เกิดขึ้นวันศุกร์(8) ทัชสโตน แคปิตอล พาทเนอร์ส(Touchstone Capital Partners) ทุนยักษ์ใหญ่ของจีนลงนามในเอกสารความเข้าใจร่วมกัน (เมโมแรนดัม) กับบริษัท ไฟเนสต์ เบย์ แอเรีย เดเวลลอพเมนต์ (Finest Bay Area Development ) ในการลงทุนมูลค่า 15 พันล้านยูโร หรือราว 17 พันล้านดอลลาร์ สำหรับโปรเจกต์สร้างอุโมงค์รถไฟลอดใต้ทะเลที่ยาวที่สุดในยุโรป โดยมีความยาวโดยรวมถึง 103 กิโลเมตร
ซึ่งในการประกาศของบริษัทไฟเนสต์ เบย์ แอเรีย เดเวลลอพเมนต์วันศุกร์(8) พบว่า 1 ใน 3 ของค่าก่อสร้าง 15 ล้านยูโรจะมาจากการลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เป็นสำคัญ ( private equity investment) พร้อมกับทางทัชสโตนจะถือหุ้นจำนวนน้อยในโปรเจกต์ และที่เหลืออีก 2 ใน 3 จะมาจากการระดมทุน(Debt Financing)
เงินทุนของจีนจะให้กับโปรเจกต์ตามความก้าวหน้า นอกจากนี้ในวันศุกร์(8) หุ้นส่วนทั้งสองยังตกลงเกี่ยวกับรายละเอียดทางการเงินสำหรับข้อตกลงในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้อุโมค์รถไฟฟินแลนด์-เอสโตเนียถูกออกแบบให้เชื่อมระหว่างสนามบินเฮลซิงกิ วานตา(Vantaa) และสนามบินทาลลิน(Tallinn) เข้าด้วยกันโดยมีสถานีจอด 2 สถานีอยู่ระหว่างเส้นทางการเดินทาง
รอยเตอร์ชี้ว่า อย่างไรก็ตามโปรเจกต์การพัฒนานี้ยังต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งในการไปเยือนเอสตัวเนียในสัปดาห์นี้ นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ จูฮา ซิพิลา( Juha Sipila) แสดงความเห็นว่า วิสัยทัศน์ระยะไกลของฟินแลนด์รวมไปถึงการที่ชาวฟินแลนด์จะสามารถสัญจรข้ามผ่านทางอุโมงค์ไปยังกรุงทาลลินได้
แต่ทว่าเมื่อต้นสัปดาห์นี้ นายกรัฐมนตรีเอสโตเนีย จูรี ราตาส( Juri Ratas) ย้ำถึงความจำเป็นในการตรวจสอบทางความมั่นคงสำหรับโครงการนี้ พร้อมไปกับการศึกษาเกี่ยวกับระบบนิเวศน์วิทยาที่ได้เกิดขึ้นก่อนหน้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
RT รายงานว่า ถึงแม้การก่อสร้างอุโมงค์ใต้น้ำจะยังไม่เกิดขึ้น และยังไม่มีกำหนดถึงการเริ่มต้นการก่อสร้างจนกระทั่งปี 2024 ไปแล้ว แต่พบว่าตั๋วโดยสารได้ถูกนำออกจำหน่ายมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยพบว่าตั๋วโดยสารเที่ยวเดียวอยู่ที่ 50 ยูโร ในขณะที่ตั๋วประจำปีไม่จำกัดเที่ยวมีราคาที่ 1,000 ยูโร