เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ในเวลานี้เหตุยิงปะทะในการบุกยึดโรงแรมยังคงเกิดมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้(1 มี.ค) ยาวนานไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง หลังอัลเชบับส่งมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีด้วยคาร์บอมบ์ย่านถนนที่วุ่นวายในช่วงค่ำวานนี้(28 ก.พ) กรุงโมกาดิชู มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 29 ราย บาดเจ็บ 80 ราย
เอเอฟพีรายงานวันนี้(1 มี.ค)ว่า ในขณะที่หนึ่งในสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายอัลเชบับได้จุดระเบิดคาร์บอมบ์สังหารตัวเองไปในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(28 ก.พ) พบว่ามีสมาชิกคนอื่นๆของกลุ่มที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ได้บุกเข้าไปด้านในภัตตาคารแห่งหนึ่งหลังจากตกอยู่ในวงล้อมของเจ้าหน้าที่
“ยังคงมีกลุ่มติดอาวุธยังคงอยู่ภายในตัวอาคาร” อิบราฮิม โมฮัมเหม็ด(Ibrahim Mohamed) ตำรวจโซมาเลียกล่าวให้ความเห็นในวันศุกร์(1) ในขณะที่เสียงจากการต่อสู้ที่มีทั้งการยิงปืน ระเบิด สามารถได้ยินไปทั่ว พร้อมกับชี้ว่า “ทางเจ้าหน้าที่ความมั่นคงโซมาเลียพยายามที่จะบุกเข้าไปด้านใน”
โดยรอยเตอร์รายงานถึงยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดว่า มีไม่ต่ำกว่า 29 ราย เพิ่มจาก 13 ราย และบาดเจ็บ 80 ราย ในขณะที่ช่วงแรกทางเอเอฟพีให้ตัวเลขไว้ที่ 5 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 60 คน
รอยเตอร์ระบุว่า ตำรวจโซมาเลีย มูซา อาลี( Musa Ali) ให้ข้อมูลยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดว่า "ที่เรารู้มีจำนวน 29 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 80 คน" และกล่าวถึงสถานการณ์เวลานี้ว่า "ทางกลุ่มยังคงต่อสู้จากบ้านประชาชนหลังหนึ่งที่ติดกับโรงแรม"
ทั้งนี้ก่อนหน้า ตำรวจโซมาเลียอีกราย โมฮาเหม็ด ฮุสเซน (Mohamed Hussein) ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ในวันศุกร์(1)ว่า “ เจ้าหน้าที่ความมั่นงคงสามารถช่วยเหลือพลเรือนจำนวนหลายสิบคนออกจากโรงแรมและอาคารใกล้เคียง แต่กลุ่มติดอาวุธยังคงอยู่ด้านในตัวอาคาร และมีการยิงปะทะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมาถึงเวลานี้ทางเรายืนยันการเสียชีวิตอยู่ที่ 13 ราย และมีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก”
และฮุสเซนกล่าวต่อว่า “ตัวเลขผู้เสียชีวิตเชื่อว่าจะสูงขึ้น และเป็นการยากสำหรับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงจะสามารถบุกเข้าไปในอาคารตั้งแต่เมื่อคืนเป็นเพราะมืดมาก และกระแสไฟฟ้าถูกตัดเนื่องมาจากการระเบิด และในเวลานี้เป็นช่วงเที่ยงแล้ว ทางเราหวังว่าปฎิบัติการจะสามารถยุติได้ในไม่กี่ชั่วโมง”
โดยทางโฆษกกลุ่มอัลเชบับแถลงว่า ทางกลุ่มยังคงบุกยึดโรงแรมไว้ โดยอ้างว่า ทางกองกำลังรัฐบาลโมกาดิชูพยายามที่จะบุกเข้าไปถึง 3 ครั้งแต่ทางกลุ่มก่อการร้ายยังคงควบคุมโรงแรมที่บุกยึดไว้ได้
ซึ่งพยานใกล้พื้นที่เกิดเหตุรายงานเสียงระเบิดเกิดในเช้าวันศุกร์(1) ระหว่างการปะทะยังคงเกิดขึ้นต่อไป โดยเอเอฟพีชี้ว่า การปะทะกับเจ้าหน้าที่มีมาอย่างยาวนานไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมงแล้ว หลังจากเริ่มต้นด้วบการโจมตีคาร์บอมบ์บริเวณถนนมาคา อัล-มูคารามา( Maka Al-Mukarama ) กรุงโมกาดิชู
“กลุ่มมือปืนยังคงอยู่ด้านในอาคาร” อับดีคาริน ชารีฟ (Abdikarin Sharif) หนึ่งในพยานที่อยู่ใกล้ชิดกับการปะทะด้วยปืนที่ถนนมาคา อัล-มูคารามากล่าว
และชายผู้นี้ได้เสริมต่อว่า “มีระเบิดเกิดขึ้น และการยิงต่อสู้อย่างหนักหน่วงอยู่ด้านในตึก พื้นที่ทั้งหมดถูกล้อมไว้”
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยโซมาเลียแถลงว่า พวกเขาประสบความสำเร็จในการดึงร่างผู้เสียชีวตออกมาได้สำเร็จจำนวน 5 ร่างจากซากปรักหักพังเพราะแรงระเบิด ซึ่งกลายเป็นลูกบอลเพลิงขนาดใหญ่พุ่งเข้าชนบริเวณด้านหน้าของอาคาร
ในขณะที่ อับดูคาเดอร์ อับดิราห์มัน (Abdukadir Abdirahman) ผู้อำนวยการรถพยาบาลฉุกเฉินอามิน( Aamin Ambulance service)ของกรุงโมกาดิชู เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 60 ราย
เอเอฟพีชี้ว่า กลุ่มก่อการร้าย อัลเชบับ แถลงว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มเป็นผู้รับผิดชอบเหตุโจมตีในช่วงค่ำของวานนี้(28 ก.พ) ในความพยายามที่จะสังหารเจ้าหน้าที่โซมาเลียระดับสูงที่อาศัยในโรงแรมมาคา อัล-มูคารามา
“พื้นที่ทั้งหมดตกอยู่ในกองเพลิง” อับดีซาเหม็ด โมฮาเหม็ด (Abdisamed Mohamed) หนึ่งในพยานกล่าวถึงเหตุการณ์หลังพื้นที่ถูกโจมตีด้วยคาร์บอมบ์ และกล่าวต่อว่า มีการยิงปะทะด้วยเช่นกัน
