เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ปากีสถานจะปล่อยตัวนักบินอินเดียที่ถูกจับกุม “เพื่อเป็นการแสดงท่าทีแห่งสันติภาพ” นายกรัฐมนตรีอิมรัน ข่าน ของปากีสถานแถลงในวันพฤหัสบดี (28 ก.พ.) ถือเป็นย่างก้าวมุ่งสู่การสร้างสายสัมพันธ์ขึ้นใหม่ ขณะที่การปะทะกันช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาระหว่าง 2 ชาติศัตรูคู่อาฆาตที่ต่างฝ่ายต่างมีอาวุธนิวเคลียร์ จุดชนวนให้เกิดความหวาดเกรงว่าจะเกิดการสู้รบขัดแย้งที่นำไปสู่ความวิบัติหายนะ
นักบินผู้นี้ ซึ่งได้รับการระบุชื่อว่า นาวาอากาศโท อภินันดัน วารธามัน ได้กลายเป็นเสมือนหน้าตาของวิกฤตการณ์คราวนี้ไปแล้ว นับตั้งแตที่เครื่องบินขับไล่ของเขาถูกยิงตกในการสู้รบทางอากาศซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้นนัก ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียใต้ 2 รายนี้ เหนือน่านฟ้าของแคว้นแคชเมียร์ที่พิพาทช่วงชิงกัน เมื่อวันพุธ (27 ก.พ.) ที่ผ่านมา
“เพื่อเป็นการแสดงท่าทีแห่งสันติภาพ เรากำลังจะปล่อยตัวนักบินชาวอินเดียผู้นี้ในวันพรุ่งนี้” นายกรัฐมนตรีอิมรัน ข่าน แถลงต่อที่ประชุมร่วมของรัฐสภาปากีสถาน
บรรดาสมาชิกรัฐสภาต่างพากันกระทืบเท้าเพื่อแสดงการรับรองเห็นชอบคำแถลงของเขา ซึ่งเป็นสัญญาณแรกของการโอนอ่อนเข้าหากันที่อาจเกิดขึ้นได้ ภายหลังผลต่อเนื่องของเหตุการณ์อย่างน่ากลัวอันตรายระหว่าง 2 ประเทศ ได้ทำให้ความตึงเครียดเพิ่มทวีขึ้นทุกที
ทั้งนี้การโจมตีข้ามพรมแดนตอบโต้กันไปมาของอินเดียกับปากีสถานในช่วงไม่กี่วันมานี้ ทำให้เหล่ามหาอำนาจของโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ, จีน, รัสซีย, หรือกระทั่งซาอุดีอาระเบีย ต้องออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น
ปากีสถานนั้นแถลงว่าได้ยิงเครื่องบินขับไล่ของอินเดียตก 2 ลำในวันพุธ (27) ขณะที่อินเดียยืนยันเพียงว่าเสียเครื่องบินไป 1 ลำ และอ้างกลับว่าได้ยิงเครื่องบินของปากีสถานตกลำหนึ่ง
“ผมหวั่นเกรงเรื่องการคาดคำนวณอย่างผิดพลาด” ข่านกล่าว “พวกเราไม่ควรแม้กระทั่งคิดถึงเรื่องสงคราม โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงความร้ายแรงในพลังทำลายของอาวุธที่พวกเรามีกันอยู่”
ข่านพูดด้วยว่า เมื่อคืนวันพุธ (27) เขาหวาดกลัวว่าอินเดียอาจจะเปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธ แต่สถานการณ์ก็ได้รับการปลดชนวนในเวลาต่อมา เขาไม่ได้ให้รายละเอียดมากกว่านี้
อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่านายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ไม่ควรตีความหมายผิดคิดว่าความปรารถนาของเขาที่จะลดระดับไม่ให้บานปลายนี้เป็น “ความอ่อนแอ”
“อินเดียต้องรู้เอาไว้ว่า เราจะถูกบังคับให้ต้องทำการตอบโต้อย่างแข็งแกร่งเพื่อสู้กับการกระทำใดๆ ก็ตามในอนาคตของอินเดีย” เขาบอก
การสู้รบตะลุมบอนของเครื่องบิน 2 ประเทศเมื่อวันพุธ และการที่นักบินฝ่ายตนถูกจับตัว เป็นชนวนให้เกิดความหวาดหวั่นในอินเดียและปากีสถาน ซึ่งได้เคยทำสงครามสู้รบกันและปะทะกันจนมีคนบาดเจ็บล้มตายนับครั้งไม่ถ้วนในภูมิภาคติดเทือกเขาหิมาลัยนี้ ว่าวัฎจักรแห่งการแก้แค้นและการตอบโต้โจมตีกลับกำลังหมุนขึ้นมาอีกครั้งจนอาจจะควบคุมกันไม่อยู่
ปากีสถานได้สั่งปิดน่านฟ้าของตนอย่างไม่มีกำหนด และกองทัพบกแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (28) ว่ากองทหารของตนเตรียมพร้อมในระดับสูงตามแนว “เส้นควบคุม” (Line of Control) ซึ่งก็คือเส้นแบ่งพรมแดนในทางพฤตินัยที่ตัดแบ่งแคว้นแคชเมียร์ออกเป็น 2 ส่วน
พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบสั่งเพิ่มมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตลอดทั่วประเทศ โดยที่โรงพยาบาลต่างๆ ถูกสั่งเตรียมพร้อม ขณะที่ตำรวจตลอดจนเจ้าหน้าที่ความมั่นคงหน่วยอื่นๆ ในบางเมืองใหญ่ก็ถูกห้ามลาห้ามขาดงาน
เวลาเดียวกัน การปะทะกันประปรายระหว่างทหารอินเดียและปากีสถานตามแนว “เส้นควบคุม” ได้ปะทุขึ้นมาอีกเมื่อวันพฤหัสบดี (28)
กองทัพบกอินเดียกล่าวว่า ทหารปากีสถานกำลังยิงปืนครกและปืนกลโดยพุ่งเป้าหมายมาที่จุดระวังหน้าของอินเดียกว่า 20 แห่ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงระหว่าง 2 ประเทศที่ทำกันไว้เมื่อปี 2003 พันโท เดเวนเดอร์ อานันท์ โฆษกกองทัพบกอินเดีย แถลง พร้อมกันบอกด้วยว่า ทหารอินเดียกำลังตอบโต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของฝ่ายปากีสถานตามแนวเส้นควบคุมนี้
ขณะที่ความโกรธแค้นกำลังเดือดระอุอยู่นอินเดียจากการที่ปากีสถานจับกุมนักบิน นายกฯโมดีได้เรียกร้องพลเมืองของเขาเมื่อวันพฤหัสบดีให้ “ยืนหยัดเหมือนเป็นกำแพง” ต่อหน้าศัตรูที่ “มุ่งหาทางสั่นคลอนเสถียรภาพของอินเดีย”
พวกนักวิเคราะห์บอกว่า ชะตากรรมของนักบินผู้นี้ และการปล่อยตัวเขากลับอินเดียอย่างปลอดภัย อาจเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงรั้งเพื่อนบ้าน 2 ชาตินี้กลับออกมาจากปากขอบเหว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แสดงความเห็นในแง่ดีว่า ความตึงเครียดนี้จะได้รับการคลี่คลายในเร็ววันนี้
“เราเพิ่งได้รับข่าวที่ดูดีสมเหตุสมผลบางข่าว … หวังว่าเรื่องนี้กำลังจะถึงจุดยุติแล้ว” เขาพูดถึงวิกฤตการณ์คราวนี้ ในระหว่างพูดกับพวกผู้สื่อข่าวที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ภายหลังการประชุมซัมมิตกับผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน
การเผชิญหน้ากันอย่างน่ากลัวในระลอกนี้ปะทุขึ้นหลังจากกลุ่มอิสลามิสต์ติดอาวุธปฏิบัติการโจมตีแบบฆ่าตัวตายในดินแดนแคชเมียร์ส่วนที่อินเดียยึดครองอยู่ สังหารทหารอินเดียตายไป 40 คนเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์
นิวเดลีประณามว่าเป็นฝีมือของกลุ่มจาอิช-อี-โมฮัมหมัด ซึ่งตั้งฐานอยู่ในปากีสถาน อีก 12 วันต่อมา ฝูงเครื่องบินรบของอินเดียได้เปิดฉากโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของปากีสถาน เล่นงานสิ่งที่นิวเดลีระบุว่าเป็นค่ายฝึกอบรมพวกอิสลามิสต์
อิสลามาบัดซึ่งเดือดดาลการโจมตีของนิวเดลี ปฏิเสธว่าไม่ได้มีผู้บาดเจ็บล้มตายหรือความเสียหายใหญ่โตอะไรตามที่อินเดียกล่าวอ้าง แต่อีก 1 วันต่อมาก็ได้เปิดฉากการรุกล้ำของตนเองด้วยการส่งเครื่องบินขับไล่บินข้ามผ่านเส้นควบคุม ซึ่งจุดชนวนให้เกิดการสู้รบกันชุลมุน ซึ่งจบลงด้วยการที่นาวาอากาศโทอภินันดันถูกฝ่ายปากีสถานจับตัวไว้
ในคลิปวิดีโอคลิปหนึ่งที่ถูกนำออกเผยแพร่ต่อๆ กันอย่างกว้างขวาง โดยดูเหมือนถ่ายไว้ไม่นานหลังเครื่องบินของเขาถูกยิงตก ตั้งใจที่จะแสดงให้เห็นว่าอภินันดันกำลังถูกลากตัวและถูกทุบตีโดยชายกลุ่มหนึ่ง ขณะที่พวกทหารปากีสถานเข้าไปขัดขวาง ร้องตะโกนร้องกันว่า “หยุด! หยุด!”
โมฮัมหมัด ไฟซาล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศปากีสถานบอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันพฤหัสบดีว่า นักบินผู้นี้ประสบ “เคราะห์ร้ายอยู่บ้างก่อนที่พวกเจ้าหน้าที่ของเราจะเข้าไปถึงที่นั่น เพราะเขาถูกประชาชนจับกุม” แต่โฆษกผู้นี้ย้ำว่า เวลานี้นักบินผู้นี้ “อยู่กับเรา เขาปลอดภัยดีและอยู่ในสภาพที่ดี”
คลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยฝ่ายทหารปากีสถานในเวลาต่อมา แสดงให้เห็น อภินันดันกำลังดื่มน้ำชา ใบหน้าของเขาบวอกพองและมีรอยแผลรอยฟกช้ำ แต่ท่าทางยังคงมีสติและสงบเยือกเย็น
เขากล่าวขอบคุณ “เหล่าสุภาพบุรุษที่แท้จริง” ซึ่งช่วยเหลือเขาออกมาจากฝูงชน และชมเชยชาที่ดื่มว่า “ยอดเยี่ยม” ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเขาถูกบังคับให้พูดเช่นนี้หรือไม่