เอเอฟพี - นักเดินทางนับหมื่นคนทั่วโลกต้องตกค้างอยู่ตามท่าอากาศยานต่างๆในวันพฤหัสบดี(28ก.พ.) หลังปากีสถานปิดน่านฟ้าตอบสนองต่อสถานการณ์ความตึงเครียดที่ลุกลามกับอินเดีย ในนั้นราว 5,000 คน เป็นผู้โดยสารของการบินไทย
องค์การการบินพลเรือนปากีสถาน(ซีเอเอ) ยืนยันว่าจะปิดน่านฟ้าต่อไปจนถึง 23.59น.ตามเวลาท้องถิ่น(ตรงกับเมืองไทย 01.59น.ของวันศุกร์) หมายความว่าเส้นทางการสัญจรหลักระหว่างยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะยังคงต้องเผชิญกับความยุ่งเหยิงต่อไป
การบินไทยจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 30 เที่ยว ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารราวๆ 5,000 คน "ขอยกเลิกทุกเที่ยวบินของการบินไทยจากกรุงเทพฯสู่ยุโรป ที่มีกำหนดออกเดินทางใกล้ๆกับเที่ยงคืนของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ จนถึงช่วงเช้าของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และจากยุโรปสู่กรุงเทพฯ ซึ่งมีกำหนดออกเดินทางในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ สืบเนื่องจากการปิดน่านฟ้าปากีสถาน" การบินไทยเขียนบนเพจทวิตเตอร์ของสายการบินเมื่อช่วงค่ำวันพุธ(27ก.พ.)
การตัดสินใจดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่ลอนดอน, มิวนิค, ปารีส, บรัสเซลส์, มิลาน, เวียนนา, สต๊อกโฮล์ม, ซูริค, โคเปนเฮเกน และออสโล แต่เมื่อตอนประมาณ 05.30 จีเอ็มที ของวันพฤหัสบดี(ตรงกับเมืองไทย 12.30น.) การบินไทยเผยว่าเที่ยวบินต่างๆที่มุ่งหน้าสู่ยุโรปกลับมาให้บริการอีกครั้ง
สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ก็ถูกบีบให้เที่ยวบินตรงสู่ยุโรปต้องแวะเติมเชื้อเพลิง ส่วนเที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่แฟรงเฟิร์ตถูกยกเลิก
วิกฤตระหว่างสองชาติผู้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ปากีสถานและอินเดีย ได้กระพือความกังวลว่ามันจะเป็นบ่อเกิดแห่งสงครามที่ควบคุมไม่อยู่
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดูมีท่าทีผ่อนคลายลง หลังปากีสถานเผยว่าในวันศุกร์(1มี.ค.) พวกเขาจะปล่อยตัวนักบินอินเดียที่จับกุมเอาไว้ได้ ในการเลียบๆเคียงๆเข้าหานิวเดลี
ปากีสถานปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและสอยเครื่องบินรบของอินเดียร่วง 2 ลำและจับนักบินเป็นตัวประกันในวันพุธ(27ก.พ.) เหตุกระทบกระทั่ง ซึ่งกระตุ้นให้เหล่ามหาอำนาจของโลก ออกมาเรียกร้อง 2 ชาติที่ครอบครองนิวเคลียร์ ให้อดทนอดกลั้น
ปฏิบัติการดังกล่าวของปากีสถาน เป็นการตอบโต้ที่กองทัพอินเดียส่งฝูงเครื่องบินรบบินข้ามเส้นแบ่งเขตหยุดยิงระหว่างสองประเทศในแคว้นแคชเมียร์ เข้ามาทิ้งระเบิดในเขตแดนปากีสถาน เป็นครั้งแรกในรอบ 48 ปีนับตั้งแต่สงครามปี 1971 เพื่อแก้แค้นกรณีกลุ่มติดอาวุธที่ซุกซ่อนในปากีสถาน ใช้คาร์บอมบ์ฆ่าตัวตายโจมตีดินแดนแคชเมียร์ของอินเดีย คร่าชีวิตตำรวจหน่วยเสริมกำลังรบของอินเดีย อย่างน้อย 40 นายเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์
อินเดียเปิดเผยว่ากองกำลังของพวกเขาก็ยิงเครื่องบินขับไล่ของปากีสถานลำหนึ่งร่วงเช่นกัน ส่งผลให้ปากีสถานปิดน่านฟ้าของตนเองอย่างกะทันหันในช่วงเช้าวันพุธ(27ก.พ.)
องค์การการบินพลเรือนปากีสถาน(ซีเอเอ) เผยในตอนเช้าวันพฤหสบดี(28ก.พ.) ว่าพวกเขากลับมาเปิดน่านฟ้าชั่วคราว และตอน 10.00จีเอ็มที(ตรงกับเมืองไทย 17.00น.) มีเที่ยวบินบินออกจากปากีสถาน 3 เที่ยว ได้แก่เที่ยวบินของสายการบินเอมริเรตส์ จากเปชาวาร์สู่ดูโบ, เที่ยบินแอร์อาราเบีย จากเปชาวาร์สู่ราสอัลไคมาห์ ในยูเออี และเที่ยวบินกาตาร์ แอร์เวย์ส จากเปชาวาร์ สู่โดฮา
ก่อนหน้านี้สายการบินเอมิเรตส์ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 10 เที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ปากีสถาน ส่วน กาตาร์ แอร์เวย์ส ยกเลิกเที่ยวบินที่มีปลายทางเปชาวาร์, ไฟซาลาบัด, อิสลามาบัด, การาชี, ลาฮอร์ และมุลตาน ขณะที่สายการบินซาอุดี แอร์ไลน์ส ระงับทุกเที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่ปากีสถาน จนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบเพิ่มเติม
ในรัสเซีย 2 เที่ยวบินจากมอสโกสู่เวียดนามและเซนต์ปีเตอร์เบิร์กสู่ประเทศไทย ต้องวกกลับไปยังรัสเซีย ส่วนแอร์แคนาดา ระงับเที่ยวบินสู่มุมไบและนิวเดลี เบี่ยงเที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่อินเดียกลับสู่โทรอนโต ขณะที่อีก 7 เที่ยวบินจากอิสตันบูลสู่ปากีสถานถูกยกเลิก
การปิดน่านฟ้าส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินของการบินไทยที่มุ่งหน้าสู่แถบสแกนดิเนเวีย และเที่ยวบินของสายการบินปากีสถาน อินเตอร์เนชันแนล แอร์ไลน์ส มุ่งหน้าสู่โคเปนเฮเกน ขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นรายงานว่ามีนักศึกษาชาวเดนมาร์ก 25 คน ติดค้างที่อยู่ท่าอากาศยานกรุงเทพฯ
โฆษกของการบินไทยเผยกับรอยเตอร์ว่าทางสายการบินพยายามหาเส้นทางใหม่เพื่อมุ่งหน้าสู่ยุโรป หลังอิหร่านปฏิเสธคำร้องขอเดินทางผ่านน่านฟ้าของพวกเขา อย่างไรก็ตามไม่กี่ชั่วโมงต่อมา จีน ได้อนุญาตให้เที่ยวบินของการบินไทยใช้น่านฟ้า เพื่ออ้อมน่านฟ้าของปากีสถาน จากการเปิดเผยของ เรืออากาศเอกปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคง และมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
คำอนุญาตดังกล่าวส่งผลให้เที่ยวบินตอนกลางคืนของวันพฤหับดี(28ก.พ.) เที่ยวมุ่งหน้าสู่ยุโรป กลับมาให้บริการอีกครั้ง แต่พบเห็นความผิดหวังมากขึ้นเรื่อยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต่อปัญหาเดินทางล่าช้าอย่างกะทันหัน "เรารอที่นี่ มานาน 11 ถึง 12 ชัวโมงแล้ว" เกอร์ดา เฮนเซล วัย 55 ปี นักท่องเที่ยวชาวเยอรมนีที่กำลังเดินทางกลับสู่มิวนิค ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ "เรายังไม่ได้กินอะไรเลย ยังไม่รู้ว่าจะพักที่ไหน ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาเยอรมนีได้มาช่วยเหลือเรา"