xs
xsm
sm
md
lg

In Pics&Clips: ระอุ!! กองกำลังสำรองอินเดีย 18 นายดับ เจ็บร่วม 20 หลังเกิดระเบิดโจมตีขบวนรถคอนวอยบนไฮเวย์ในแคชเมียร์ “ติดอาวุธในปากีฯ” ประกาศรับผิดชอบ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์/เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เกิดความรุนแรงเป็นครั้งแรกในรอบไม่ต่ำกว่า 2 ปีที่แคว้นจัมมูและแคชเมียร์  เมื่อมีกำลังสำรองอินเดียไม่ต่ำกว่า 18 นายเสียชีวิต อีก 20 นายได้รับบาดเจ็บวันนี้(14 ก.พ) หลังเกิดระเบิดขึ้นระหว่างขบวนรถคอนวอยกำลังเดินทางบนถนนไฮเวย์ห่างจากเมืองศรีนาการ์ไปราว 20กิโลเมตร ด้านกลุ่มติดอาวุธที่มีฐานในปากีสถาน ญัยอิช อี มูฮัมมัด (Jaish-e-Muhammad)  ประกาศความรับผิดชอบ

อัลญาซีเราะฮ์รายงานวันนี้(14 ก.พ)ว่า มีตัวเลขผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กองกำลังสำรองอินเดียล่าสุดอยู่ที่ 18 ราย และบาดเจ็บอีก 20 รายในรายงานของเอพี ถือเป็นการก่อเหตุครั้งอุกอาจที่สุดในแคว้นจัมมูและแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย

เอเอฟพีรายงานก่อนหน้าว่า กองกำลังอินเดียเสียชีวิตหลังระเบิดแสวงเครื่อง (IED)เริ่มทำงานระหว่างที่ขบวนรถคอนวอยกำลังเดินทางอยู่บนถนนไฮเวย์ห่างจากเมืองศรีนาการ์(Srinagar) ไปราว 20 กิโลเมตร

“ระเบิดแสวงเครื่องเกิดระเบิดขึ้น ในขณะที่ขบวนรถกองกำลังตำรวจสำรองกลาง CRPF((Central Reserve Police Force) กำลังวิ่งผ่านไป” ตำรวจระดับสูงอินเดีย มูเนียร์ อาห์เหม็ด ข่าน(  Munir Ahmed Khan )ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี

โดยเอเอฟพีให้ตัวเลขผู้เสียชีวิต โดยชี้ว่าเป็นกองกำลังตำรวจสำรองกลาง CRPFที่ 12 นาย และผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 29 นาย

“เรามีเจ้าหน้าที่ CRPF 12 นายเสียชีวิต เรากำลังอพยพผู้บาดเจ็บจากจุดที่เกิดเหตุ และในเวลานี้ยังไม่มีตัวเลขที่แน่ชัด”
ข่านแถลง

แต่ทว่าสำนักข่าวอินเดีย เดอะเพรสทรัสออฟอินเดีย( PTI) ให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ 18 รายซึ่งตรงกับของอัลญะซีเราะฮ์

ด้านซานเจย์ กุมาร์(Sanjay Kumar ) โฆษก CRPFแถลงว่า ระเบิดถูกซ่อนอยู่ด้านในตัวรถ ซึ่งสื่อท้องถิ่นอินเดียชี้ว่า รถคาร์บอมบ์ที่บรรทุกระเบิดวิ่งเข้าหาขบวนรถคอนวอย

“มันเป็นระเบิดที่มีอานุภาพมาก เป็นการระเบิดที่เกิดมาจากรถ” กุมาร์กล่าว

เอเอฟพีรายงานว่า ในขณะที่แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ CRPF อีกรายให้ข้อมูลว่า มีกองกำลังไม่ต่ำกว่า 29 นายได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด อานุภาพของระเบิดทำให้รถในขบวนได้รับความเสียหาย

และภาพถ่ายที่เกิดเหตุที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน แสดงให้เห็นถึงซากรถอย่างน้อยหนึ่งคันที่ไหม้จนเป็นตอตะโกอยู่บนถนนไฮเวย์ พร้อมไปกับรถบัสกองทัพสีน้ำเงิน ในขณะที่ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นฟ้า

สื่ออินเดียรายงานว่า กลุ่มก่อการร้ายที่มีฐานอยู่ในปากีสถาน ญัยอิช อี มูฮัมมัด (Jaish-e-Muhammad)  ประกาศความรับผิดชอบ

โดยโฆษกกลุ่ม ) ญัยอิช อี มูฮัมมัด แถลงว่า สมาชิกติดอาวุธของกองกำลังที่ชื่อ อาดิล อาห์หมัด(Aadil Ahmad) หรือ วาคาส คอมมานโด เป็นผู้ลงมือก่อเหตุสำหรับการโจมตีฆ่าตัวตาย

ซึ่งในวันพุธ(13) ก่อนหน้า อ้างอิงจากรอยเตอร์ พบว่ามีนักเรียนไม่ต่ำกว่า 12 รายได้รับบาดเจ็บจากระเบิดที่โรงเรียนในแคชเมียร์ ตำรวจอินเดียแถลง ถึงแม้ว่าในเวลานี้สาเหตุการเกิดยังไม่แน่ชัด

เอเอฟพีชี้ต่อว่า เหตุที่เกิดขึ้นในวันพฤหัสบดี(14) ถือว่าเป็นเหตุร้ายแรงต่อกองกำลังอินเดียในส่วนของแคชเมียร์มากที่สุดนับตั้งแต่กันยายน 2016 เมื่อทหารอินเดีย 19 นายเสียชีวิตในเหตุซุ่มโจมตีก่อนพระอาทิตย์โดยฝีมือติดอาวุธที่ค่ายทหารอูรี(Uri )

ทั้งนี้อินเดียมักกล่าวโทษปากีสถาน ประเทศเพื่อนบ้าน ว่าเป็นตัวการให้ที่หลบซ่อนกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งการโจมตีในครั้งนั้นถือว่าร้ายแรงมากที่สุดในรอบ 14 ปี และได้รับการตอบโต้จากการโจมตีอย่างหนักข้ามเส้นควบคุม( Line of Control) ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ

โดยเจ้าหน้าที่อินเดียกล่าวว่า กองกำลังได้ทำการโจมตีล้ำเข้าไปในพรมแดนปากีสถานไม่กี่กิโลเมตรในพื้นที่พิพาทเพื่อป้องกันการวางแผนโจมตีในเมืองต่างๆของอินเดียในอนาคต

ซึ่งการโจมตีรอบนั้นถือเป็นความภาคภูมิใจของชาติสำหรับรัฐบาลนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี และทำให้เกิดเป็นภาพยนต์อินเดียชื่อดัง “อูรี การโจมตีสุดแม่นยำ”  ("Uri: The Surgical Strike")

เอเอฟพีรายงานว่า มีการประเมินถึงกำลังทหารอินเดียประจำอยู่ในแคว้นจัมมูและแคชเมียร์ ร่วม 500,000 นาย ซึ่งเป็นดินแดนพิพาทระหว่างอินเดียและปากีสถาน โดยกลุ่มติดอาวุธได้ทำการต่อสู้มาตั้งแต่ปี 1989เพื่อให้ได้มาซึ่งเอกราชของแคชเมียร์ หรือรวมเข้ากับปากีสถาน















กำลังโหลดความคิดเห็น