เอเอฟพี - พรรคเดโมแครตซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เริ่มตรวจสอบการเสียภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และสายสัมพันธ์กับรัสเซียเมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) กลายเป็นแรงกดดันครั้งใหญ่ต่อทำเนียบขาวในยุคที่รีพับลิกันไม่ได้กุมอำนาจทั้ง 2 สภาอีกต่อไป
ทรัมป์ วิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นการ “ข่มขู่ประธานาธิบดี” หลังคณะกรรมการชุดหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรได้เปิดการไต่สวนเพื่อบังคับให้ ทรัมป์ เปิดเผยข้อมูลการเสียภาษีที่ปิดบังมานาน ส่วนคณะกรรมการอีกชุดก็เริ่มตรวจสอบนโยบายจับแยกเด็กผู้อพยพออกจากพ่อแม่ที่ชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก
“พรรคเดโมแครตและคณะกรรมการของพวกเขาบ้าไปแล้ว” ทรัมป์ ทวีตข้อความ พร้อมระบุด้วยว่า “พรรครีพับลิกันไม่เคยทำแบบนี้กับประธานาธิบดีโอบามา เราจะไม่มีเวลาเหลือสำหรับบริหารประเทศ”
เจอร์โรลด์ แนดเลอร์ ประธานคณะกรรมการตุลาการสภาผู้แทนราษฎร ขู่จะขอหมายศาลบังคับ แมทธิว วิทเทเกอร์ รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม หาก วิทเทเกอร์ ไม่ยอมส่งมอบบันทึกการสนทนาระหว่างเขากับทำเนียบขาวในเรื่องที่เกี่ยวกับคดีรัสเซียแทรกแซงเลือกตั้ง ซึ่งอยู่ในความดูแลของอัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์
แอดัม ชิฟฟ์ ประธานคณะกรรมการข่าวกรองสภาผู้แทนราษฎร ก็ประกาศจะเริ่มต้นตรวจสอบสายสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่าง ทรัมป์ กับรัสเซีย โดยอ้างถึงความเสี่ยงฟอกเงินและการที่รัฐบาลต่างชาติอาจเข้ามามีอิทธิพลเหนือ ทรัมป์
คณะกรรมการของ ชิฟฟ์ มีแผนที่จะเชิญ ไมเคิล โคเฮน อดีตทนายส่วนตัวของทรัมป์เข้าให้การ หลังจากที่ โคเฮน ยอมเปิดเผยข้อมูลวงในเกี่ยวกับการดำเนินงานของ ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของทรัมป์ และทีมหาเสียงในปี 2016 ให้อัยการพิเศษทราบมาแล้วก่อนหน้านี้
“ส.ส.แอดัม ชิฟฟ์ ประกาศ, หลังจากที่ไม่พบหลักฐานการสมคบคิดกับรัสเซีย, ว่าเขาจะขุดคุ้ยชีวิตผมในทุกแง่มุม ทั้งเรื่องการเงินและเรื่องส่วนตัว โดยไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้นเลย ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!” ทรัมป์ ทวีตข้อความ
ประเด็นหลักๆ ที่สภาผู้แทนราษฎรจะตรวจสอบ ได้แก่ เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนและการบริหารงานที่ผิดพลาดของคณะรัฐมนตรี, ผลประโยชน์ที่ ทรัมป์ อาจจะได้รับจากกิจการของครอบครัวระหว่างเป็นประธานาธิบดี รวมถึงแผนรักษาความปลอดภัยที่หย่อนยานของ ทรัมป์ และเจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาว
เมื่อผนวกกับคดีรัสเซีย และการสอบสวนคู่ขนานของกระทรวงยุติธรรมต่อทีมหาเสียงทรัมป์และบริษัท ทรัมป์ ออแกไนเซชัน แล้ว การตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่ ทรัมป์ จะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง
ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีคนเดียวของสหรัฐฯ ที่ไม่แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการเปิดเผยข้อมูลการเสียภาษีให้สาธารณชนทราบ โดยทีมกฎหมายของเขาอ้างว่าหลักฐานทั้งหมดกำลังถูกตรวจสอบโดยสำนักงานสรรพากรสหรัฐฯ (Internal Revenue Service - IRS) มาตั้งแต่ปี 2002
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สตีพิมพ์บทวิเคราะห์ในปี 2016 โดยอาศัยข้อมูลที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งสรุปได้ว่า ทรัมป์ อาจจะเสียภาษีน้อยมาก หรือถึงขั้นไม่เสียภาษีเลยมาตั้งแต่ปี 1995