xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ แถลงนโยบายจี้คองเกรสอนุมัติงบสร้างกำแพง-ยืนยันซัมมิต ‘คิม จองอึน’ ที่เวียดนาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวแถลงนโยบายประจำปี (state of the union) ต่อสภาคองเกรส ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อค่ำวันที่ 5 ก.พ.
รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศในการแถลงนโยบายประจำปี (state of the union) ต่อสภาคองเกรสวานนี้ (5 ก.พ.) ว่าจะผลักดันแผนสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโกต่อไป พร้อมวิจารณ์ความพยายามของพรรคเดโมแครตที่จะไล่บี้ตรวจสอบรัฐบาลของตนว่าเป็นเรื่อง ‘ไร้สาระ’ ที่อาจทำลายความเจริญรุ่งเรืองของสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าการประชุมซัมมิตครั้งที่ 2 กับผู้นำเกาหลีเหนือจะมีขึ้นที่เวียดนามระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ.

การปราศรัยครั้งสำคัญที่สุดในรอบปีของ ทรัมป์ มีขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองในสหรัฐฯ ซึ่งเกิดจากการที่ ทรัมป์ เรียกร้องให้พรรคเดโมแครตยอมอนุมัติงบประมาณกว่า 5,700 ล้านดอลลาร์อุดหนุนโครงการสร้างกำแพง ซึ่งเขาอ้างว่าจะช่วยสกัดกั้นผู้อพยพผิดกฎหมายและการลักลอบขนยาเสพติดเข้าสหรัฐฯ

ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่าปัญหาคนหลบหนีเข้าเมืองนั้นถือเป็น “วิกฤตการณ์เร่งด่วนของชาติ” แต่ยังไม่ถึงกับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินชายแดน ซึ่งจะทำให้เขามีสิทธิ์ใช้อำนาจประธานาธิบดีเบิกงบสร้างกำแพงโดยไม่ต้องผ่านสภาคองเกรส อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ได้ยื่นคำขาดให้พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันประนีประนอมกันให้ได้ภายในวันที่ 15 ก.พ.

“คนส่วนใหญ่ในที่นี้เคยโหวตให้มีการสร้างกำแพง ทว่ากำแพงที่แข็งแกร่งไม่เคยสร้างสำเร็จ... ผมจะเป็นคนสร้างมันเอง” ทรัมป์ กล่าว 

คนในพรรคเดโมแครตส่วนใหญ่เชื่อว่าการสร้างกำแพงนั้นสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ และไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริง

ทรัมป์ เตือนว่าความพยายามของเดโมแครตที่จะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รวมถึงการที่สหรัฐฯ เข้าไปพัวพันกับสงครามในต่างแดน อาจจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ

“ปาฏิหาริย์ทางเศรษฐกิจกำลังเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา และสิ่งเดียวที่จะหยุดมันได้ก็คือสงครามโง่ๆ การเมือง และการตรวจสอบของพรรคการเมืองที่ไร้สาระ” เขากล่าว

ส.ส.เดโมแครตซึ่งเวลานี้กุมเสียงข้างมากในสภาล่างมีแผนที่จะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลทรัมป์หลายเรื่อง รวมถึงคดีรัสเซียแทรกแซงศึกเลือกตั้งปี 2016 และความเป็นไปได้ที่ทีมงานทรัมป์จะสมรู้ร่วมคิด ซึ่งเวลานี้อยู่ในความดูแลของอัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์

นอกจากโอ้อวดเรื่องตัวเลขคนว่างงานในสหรัฐฯ ซึ่งลดต่ำที่สุดในรอบ 50 ปี และตำแหน่งงานภาคการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นแล้ว ทรัมป์ ไม่ได้ให้รายละเอียดมากนักว่ารัฐบาลมีแผนอย่างไรในการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งมีแนวโน้มจะชะลอตัวลงตั้งแต่ต้นปี 2019

ผลสำรวจของรอยเตอร์เมื่อเดือนที่แล้วคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีนี้จะขยายตัวได้เพียง 2.1% หลังจากที่เคยเติบโตได้ราวๆ 3% ในปีที่ผ่านมา

แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต มีสีหน้าเรียบเฉยและปรบมืออย่างเสียไม่ได้เป็นระยะๆ ระหว่างที่ ทรัมป์ พูด ซึ่งจนถึงตอนนี้ เพโลซี ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมอ่อนข้อให้กับ ทรัมป์ ในเรื่องกำแพง

การงัดข้อระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับพรรคเดโมแครตส่งผลให้สหรัฐฯ ต้องเผชิญวิกฤตชัตดาวน์นานเป็นประวัติการณ์ถึง 35 วัน ซึ่งผลโพลรอยเตอร์/อิปซอสพบว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่มองว่า ทรัมป์ เป็นฝ่ายผิด

“พูดง่ายๆ ก็คือ กำแพงมันใช้ได้ผลและช่วยปกป้องชีวิตคนได้ ดังนั้น ผมขอให้เราทุกฝ่ายร่วมมือกัน ประนีประนอม และทำข้อตกลงที่จะช่วยปกป้องอเมริกาให้ปลอดภัยอย่างแท้จริง” ทรัมป์ กล่าว

ผู้นำสหรัฐฯ ยังเอ่ยถึงความพยายามในการแก้ไขข้อตกลงการค้ากับจีนและประเทศอื่นๆ เพื่อให้อเมริกาได้รับประโยชน์สูงสุด

ทรัมป์ ชี้ว่า ข้อตกลงใดๆ ก็ตามที่จะมีขึ้น “ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเพื่อยุติพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรม ลดตัวเลขขาดดุลของสหรัฐฯ และปกป้องตำแหน่งงานของชาวอเมริกัน”

ในประเด็นเรื่องอิหร่านและภัยคุกคามต่ออิสราเอล ทรัมป์ ระบุว่า “เราจะไม่ละสายตาจากระบอบที่ตะโกนแช่งด่าให้อเมริกาไปตาย และขู่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว”

ทรัมป์ สนับสนุนให้มีการโน้มน้าวประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลาให้ยอมสละอำนาจแต่โดยดี ขณะเดียวกันก็ประกาศว่ากลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) พ่ายแพ้อย่างราบคาบแล้ว

ผู้นำสหรัฐฯ ยังถือโอกาสนี้ยืนยันกำหนดการประชุมซัมมิตกับผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือว่าจะมีขึ้นที่เวียดนามระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ. และยกเครดิตให้ตัวเองเป็นผู้ยับยั้งสงครามครั้งใหญ่บนคาบสมุทรเกาหลี

“ถ้าผมไม่ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ผมเชื่อว่าเวลานี้เราคงกำลังทำสงครามครั้งใหญ่กับเกาหลีเหนืออยู่” เขากล่าว

ทรัมป์ ยืนยันว่าตนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ คิม จองอึน และแม้จะยังมีภารกิจอีกหลายอย่างที่ต้องทำเพื่อให้เกิดสันติภาพกับเกาหลีเหนือ แต่การที่เปียงยางยอมระงับทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธในรอบ 15 เดือนที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี

ทรัมป์ ระบุด้วยว่า สหรัฐฯ กำลังเดินหน้าเจรจากับกลุ่มต่างๆ ในอัฟกานิสถาน รวมถึงตอลิบาน เพื่อให้ได้ข้อตกลงทางการเมืองซึ่งจะช่วยให้อเมริกาสามารถถอนทหารบางส่วนออกมาได้






กำลังโหลดความคิดเห็น