เอเจนซีส์ – สื่อเมืองผู้ดีเผย สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธถูกดึงเข้าสู่ “แคมเปญกระตุ้นความกลัว” หลังมีข่าวว่า เหล่าข้าราชการพลเรือนร่างแผนอพยพราชวงศ์หากอังกฤษถอนตัวจากอียูโดยปราศจากข้อตกลงและนำไปสู่การจลาจลใหญ่ในกรุงลอนดอน ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีธุรกิจเตือนสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้พรรคอนุรักษ์นิยมถูกทอดทิ้งจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
หนังสือพิมพ์อังกฤษ "เดลี เมล" รายงานในวันอาทิตย์ (3 ก.พ.) อ้างได้รับข้อมูลมาว่า ผู้วางแผนฉุกเฉินของรัฐบาลอังกฤษได้บรรจุแผนการอพยพราชวงศ์ไปยังสถานที่ปลอดภัยนอกเมืองหลวงไว้ในการเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่กรมวางแผนฉุกเฉินพลเรือนกำหนดวัตถุประสงค์ใหม่สำหรับปฏิบัติการลับเก่าแก่ที่ในอดีตอาจรวมถึงการอพยพราชวงศ์ไปประทับยังพระตำหนักนอกเมืองเพื่อปกป้องจากกองกำลังของศัตรูระหว่างช่วงสงครามเย็น โดยแผนการนี้ร่างขึ้นตั้งแต่ปี 1962 หลังวิกฤตขีปนาวุธคิวบา
การฟื้นแผนการนี้กลายเป็นที่ขบขันของ จาค็อบ รีส-ม็อกก์ ผู้สนับสนุนเบร็กซิตคนสำคัญที่วิจารณ์ว่า ราวกับนิยายแฟนตาซีช่วงสงครามที่ร่างโดยบรรดาข้าราชการพลเรือนที่ดูคลิปข่าวสงครามเวียดนามมากเกินไป
แหล่งข่าวในกรมวางแผนฉุกเฉินฯ ระบุว่า การจำลองสถานการณ์วิกฤตที่รุนแรงสุดจากการถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) โดยไม่มีข้อตกลง อาจเกิดการจลาจลที่มีการทำลายและปล้นร้านค้าต่างๆ ในลอนดอนเนื่องจากขาดแคลนอาหารหลัก และบอกด้วยว่า “รายการเป้าหมายสำคัญสูงสุด” ในแผนการที่เดิมเน้นย้ำปัญหา เช่น ความพร้อมของน้ำสะอาดและเวชภัณฑ์นั้นถูกยกระดับ หลังจาก รีส-ม็อกก์ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ขอให้สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ระงับการประชุมรัฐสภาเพื่อขัดขวางความพยายามของสมาชิกรัฐสภาฝ่ายที่สนับสนุนให้อังกฤษคงอยู่กับอียู ที่ต้องการเลื่อนการถอนตัวออกไป
รีส-ม็อกโต้ว่า รัฐธรรมนูญที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่หมายความว่า อาจจำเป็นต้องหยุดยั้งการตัดทางเลือกถอนตัวโดยไม่มีข้อตกลงออกจากการพิจารณา พร้อมกล่าวหารัฐบาลอยู่เบื้องหลังการแทรกแซงของพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ด้วยการขอให้ประชาชนทั่วสหราชอาณาจักรค้นหาความตกลงร่วมที่ยึดโยงประเทศเข้าไว้ด้วยกัน
แหล่งข่าวสำทับว่า การที่ควีนเอลิซาเบธถูกดึงเข้าสู่การเมืองด้วยเรื่องนี้ จึงมีแนวโน้มว่า พระองค์และพระราชวงศ์อาจตกเป็นเป้าหมายของผู้ประท้วง
แม้สำนักพระราชวังบัคกิงแฮมและรัฐบาลอังกฤษไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง แต่แหล่งข่าวอาวุโสในรัฐบาลยืนยันว่า ไม่ใช่แคมเปญสร้างความกลัว แต่เป็นหน้าที่ของบรรดานักวางแผนที่มีนับสิบคนที่ต้องจำลองสถานการณ์ที่เป็นไปได้ทั้งหมด แม้อาจไม่มีแนวโน้มเกิดขึ้นจริงก็ตาม
ขณะเดียวกัน ริชาร์ด แฮร์ริงตัน รัฐมนตรีธุรกิจ เตือนว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงอาจหันหลังให้หากพรรคอนุรักษ์นิยมปล่อยให้อังกฤษถอนตัวจากอียูโดยปราศจากข้อตกลง และเหตุการณ์ดังกล่าวจะทำให้วิกฤตการณ์ลุกลามกลายเป็นหายนะ โดยขณะนี้ผู้ผลิตต่างพากันกักตุนสินค้าอย่างรวดเร็วทำลายสถิตินับจากที่มีการเก็บข้อมูลเรื่องนี้เมื่อต้นทศวรรษ 1990
คำเตือนนี้มีขึ้นขณะที่บรรดาคณะรัฐมนตรีมีเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ในการโน้มน้าวให้นายกรัฐมนตรีเมย์สนับสนุนการเลื่อนเบร็กซิตออกไป ก่อนที่การลงมติของสภาจะบีบให้เมย์ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ
สภาอังกฤษมีกำหนดโหวตข้อเสนอเบร็กซิตรอบใหม่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของรัฐบาลกล่าวว่า ขณะนี้ยากมากที่อังกฤษจะถอนตัวจากอียูได้ตามกำหนดสิ้นเดือนมีนาคม
แฮร์ริงตันเขียนบทความลงใน "ดิ อ็อบเซิร์ฟเวอร์" เรียกร้องให้สมาชิกสภาจัดการภารกิจที่ไม่พึงประสงค์อย่างรวดเร็วและเด็ดขาด รวมทั้งฝ่าฟันการต่อต้านด้วยการขยายระยะเวลาการเป็นสมาชิกอียูของอังกฤษออกไปก่อน หากรัฐบาลและสภาไม่สามารถตกลงข้อตกลงเบร็กซิตได้ เขายังเตือนเกี่ยวกับผลกระทบต่อการเลือกตั้งสำหรับพรรคอนุรักษ์นิยมหากปล่อยให้อังกฤษออกจากอียูโดยไม่มีข้อตกลง
ความคิดเห็นของแฮร์ริงตันสะท้อนความกังวลอย่างกว้างขวางในหมู่สมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมว่า พรรคจะสูญเสียผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่มีแนวทางสายกลางจากการจัดการกับเบร็กซิต อย่างไรก็ตาม สมาชิกอาวุโสเชื่อว่า ถึงตอนนี้พรรคต้องแสดงจุดยืนในการสนับสนุนการถอนตัวจากอียู
ขณะเดียวกัน จากที่มีแนวโน้มน้อยมากที่อียูจะยอมแก้ไขประเด็นสำคัญในข้อตกลงที่ทำกับเมย์ซึ่งถูกสภาอังกฤษคว่ำเมื่อเดือนที่แล้ว รัฐมนตรีบางคนจึงพยายามโน้มน้าวให้เมย์สนับสนุนการเลื่อนเส้นตายในการถอนตัวจากอียู
นอกจากนั้น ยังมีคำเตือนเกี่ยวกับการถอนตัวโดยปราศจากข้อตกลงจากภาคธุรกิจ อาทิ รายงานที่บอกว่า นิสสันจะประกาศในสัปดาห์นี้ว่า จะยกเลิกแผนการผลิตรถเอ็กซ์-เทรลในซันเดอร์แลนด์