เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรี ปีเตอร์ เปเยกรินี ของสโลวาเกีย ระบุในวันพุธ (30 ม.ค.) ว่า ประเทศของเขาไม่คิดว่าบริษัทโทรคมนาคมแดนมังกร “หัวเว่ย” เป็นภัยต่อความมั่นคง และจำเป็นจะต้องมีหลักฐานก่อนว่าเทคโนโลยีของบริษัทนี้ก่อให้เกิดความเสี่ยง ถึงจะดำเนินการตั้งข้อจำกัดใดๆ
หัวเว่ยกำลังถูกหลายประเทศตั้งแง่ในเรื่องความสัมพันธ์ที่มีต่อรัฐบาลจีน รวมถึงถูกกล่าวหาว่า รัฐบาลจีนอาจใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ยสำหรับทำการสอดแนม ซึ่งทางหัวเว่ยปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
ยุโรปกลายเป็นจุดสนใจล่าสุดสำหรับท่าทีที่มีต่อหัวเว่ย หลังจากโปแลนด์จับกุมลูกจ้างของหัวเว่ยรายหนึ่งที่ต้องสงสัยว่าทำการสอดแนม ส่วนที่เยอรมนีก็กำลังถกเถียงกันอยู่ว่าจะเดินตามรอยเท้าอเมริกาและพันธมิตรหรือไม่ สำหรับการตั้งข้อจำกัดต่อเทคโนโลยีของหัวเว่ยไม่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในเครือข่ายโทรคมนาคมเจเนอเรชันใหม่
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังถูกตัดออกจากการประกวดราคา ทำแทกซ์พอร์ทัลให้กับสาธารณรัฐเช็ก เพราะหน่วยงานเฝ้าระวังด้านไซเบอร์ของเช็กได้ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ที่หัวเว่ยจะเป็นภัยต่อความมั่นคง
นายกรัฐมนตรี ปีเตอร์ เปเยกรินี ของสโลวาเกีย ถูกถามที่งานแถลงข่าวในวันพุธ ว่า เขามองหัวเว่ยเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือไม่ หลังจากที่เช็กทำแบบนั้น
“เราไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานความมั่นคงของสโลวาเกียที่จะใช้เป็นหลักฐานได้ว่าบริษัทนี้จะเป็นภัยต่อความมั่นคง” เปเยกรินี บอกนักข่าว
“ถ้าเราอยากจะคุยเรื่องความมั่นคงด้านไซเบอร์ เราควรจะคุยกับทุกบริษัท ไม่ใช่แค่บริษัทเดียว” เขากล่าว
ทั้งนี้ หน่วยงานเฝ้าระวังและหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของสโลวาเกีย ยังไม่มีการออกคำเตือนแบบที่มีในสาธารณรัฐเช็ก และทางนายกรัฐมนตรีก็ระบุด้วยว่า สโลวาเกียต้องใช้เวลาคิดให้ดีก่อนจะทำอะไร
“นักการเมืองควรจะระวังไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือในสงครามการค้าหรือการต่อสู้กัน เราไม่ควรด่วนตัดสินใจ” เปเยกรินี บอกนักข่าว