xs
xsm
sm
md
lg

'ส่งออกจีน'วูบแรงส่อศก.ซึมเร็วกว่าคาด ย้ำแนวโน้มการค้า-อัตราเติบโตโลกอ่อนตัว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์ - จีนเผยแพร่ข้อมูลตัวเลขในวันจันทร์ (14 ม.ค.) ซึ่งแสดงว่าได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2018 ที่ผ่านมา ทว่ายอดส่งออกและนำเข้าในเดือนธันวาคมลดฮวบขณะที่สงครามการค้าเริ่มส่งผลกระทบกระเทือน ทั้งนี้การที่ เศรษฐกิจแดนมังกรอาจจะชะลอตัวลงเร็วกว่าที่เคยคาดหมายกัน ก่อให้เกิดความกังวลว่าอุปสงค์ทางการค้าและการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั่วโลกจะพลอยถูกบั่นทอนไปด้วย

การที่จีนได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯอย่างมหาศาล คือเหตุผลหลักที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้อ้างเพื่อดำเนินการตอบโต้ด้วยการขูดภาษีศุลกากรสินค้าจีนรวมมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา รวมทั้งขู่ว่า จะมีมาตรการลงโทษตามมาอีกในอนาคตหากการเจรจาการค้าไม่ลุล่วงภายในต้นเดือนมีนาคมปีนี้

ตามข้อมูลล่าสุดของสำนักงานศุลกากรจีน การส่งออกของจีนไปยังสหรัฐฯ ในปี 2018 ยังคงเพิ่มขึ้นถึง 11.3% ขณะที่การนำเข้าขยับขึ้นเพียง 0.7% ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าต่ออเมริกาพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 12 ปี อยู่ที่ 323,300 ล้านดอลลาร์ จาก 275,800 ล้านดอลลาร์ในปี 2017 สำหรับยอดส่งออกไปทั่วโลกเพิ่มขึ้น 9.9% สูงสุดในรอบ 7 ปี และยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 15.8%

อย่างไรก็ตาม เฉพาะเดือนธันวาคม ข้อมูลการค้าบ่งบอกว่า มาตรการภาษีของทรัมป์เริ่มแผลงฤทธิ์ กล่าวคือยอดส่งออกไปอเมริกาลดลง 3.5% ขณะที่ยอดนำเข้าจากอเมริกาดิ่งฮวบถึง 35.8% ในส่วนยอดส่งออกทั่วโลกลดลง 4.4% ส่วนยอดนำเข้ารูดลง 7.6% สะท้อนอุปสงค์ที่ซบเซาทั้งภายในและนอกประเทศ และชี้ว่า เศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวเร็วกว่าที่คาด แม้ปักกิ่งออกมาตรการกระตุ้นหลายระลอกในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่การเพิ่มงบใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานจนถึงการลดภาษีก็ตาม

ทั้งนี้ สัปดาห์ที่แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงการเปิดเผยของแหล่งข่าวว่า ปักกิ่งกำลังวางแผนลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้อยู่ที่ 6-6.5% หลังจากขยายตัว 6.6% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ

อุปสงค์ที่ซบเซาลงในจีนยังส่งผลกระทบที่รับรู้ได้ทั่วโลก เช่น ยอดขายไอโฟนจนถึงรถยนต์ชะลอตัว กระทั่งสัปดาห์ที่แล้วแอปเปิลออกคำเตือนเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการ และจากัวร์ แลนด์ โลเวอร์ประกาศปลดพนักงานจำนวนมาก

หลังการประกาศข้อมูลการค้าล่าสุดของจีนคราวนี้ ก็ได้ฉุดตลาดหุ้นเอเชียและยุโรปร่วงลงในวันจันทร์ จากความกังวลว่า ผลกำไรและการลงทุนของภาคธุรกิจอาจลดลง

ในส่วนความสัมพันธ์ทางการค้าจีน-สหรัฐฯ นั้น หลี่ กุ้ยเหวิน โฆษกสำนักงานศุลกากรจีน ยืนยันว่า พัฒนาการโดยรวมในปีที่ผ่านมาถือว่า ค่อนข้างปกติ

โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11) กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า จีนจะดำเนินการเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งทางการค้ากับอเมริกาภายในปีนี้

หลี่สำทับว่า จีนจะปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและขยายการค้ากับต่างชาติ เพื่อรักษาอัตราการจ้างงาน รวมทั้งเสถียรภาพของภาคการเงิน การค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ และยอมรับว่า การดำเนินการนี้มีอุปสรรคจากข้อกังวลที่ไม่เปิดเผยและปัจจัยภายนอกที่ไม่แน่นอน

ทางด้าน จูเลียน อีแวนส์-พริตชาร์ด จากแคปิตอล อิโคโนมิกส์ มองว่า การที่เศรษฐกิจโลกปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัว บ่งชี้ว่า การส่งออกของจีนจะยังคงซบเซาลง แม้ปักกิ่งบรรลุข้อตกลงการค้ากับทรัมป์ก็ตาม

เรย์มอนด์ เยือง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอเอ็นแซด คาดหมายคล้ายกันว่า การส่งออกของจีนจะหดตัวลงเหมือนช่วงปี 2015-2016 เมื่อพิจารณาจากข้อมูลการค้าเดือนธันวาคมและยอดสั่งซื้อสินค้าในอุตสาหกรรมการผลิตที่ตกลงต่อเนื่องหลายเดือน และแม้จีนกับอเมริกาบรรลุข้อตกลงการค้า แต่วงจรขาลงของภาคอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนการส่งออกสำคัญของจีน จะเพิ่มความเสี่ยงที่แท้จริงต่อแนวโน้มการเติบโตของแดนมังกร
กำลังโหลดความคิดเห็น