ซีเอ็นบีซี/มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันในวันศุกร์(11ม.ค.) ลงแรง จากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่วนวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบ จับตาผลประกอบการไตรมาส 4 ขณะที่ทองคำปรับขึ้นหลังดอลลาร์อ่อนค่าลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง ปิดที่ 60.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวในวันศุกร์(11ม.ค.) ถือเป็นจุดสิ้นสุดการปิดบวก 9 วันติด ซึ่งนับเป็นการขยับขึ้นต่อเนื่องยาวนานที่สุดตั้งแต่เดือนมกราคม 2010 สำหรับน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและตั้งแต่เดือนเมษายน 2007 สำหรับน้ำมันดิบเบรนต์
นักลงทุนยังคงกังวลต่อข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เผยแพร่ออกมาเมื่อเร็วๆ ซึ่งกระพือข้อวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวระบุว่าจีนมีแผนปรับลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจลงสู่ระดับ 6-6.5% สำหรับปี 2019 จากระดับเป้าหมายของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ราวๆ 6.5% ขณะที่ปักกิ่งต้องหาทางรับมือกับมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯและอุปสงค์ภายในที่อ่อนแอลง
"ถ้าเราประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว อุปสงค์น้ำมันดิบอาจลดต่ำลง เนื่องจากมันสัมพันธ์กับการเติบโต" ฮิว เฟรม ผู้จัดการของเฟรมฟันด์ส ในซิดนีย์ให้ความเห็น
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(11ม.ค.) ปิดในกรอบแคบๆ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนอีกวัน นักลงทุนจับตาฤดูกาลรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์หน้า
ดาวโจนส์ ลดลง 5.97 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,995.95 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.38 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,596.26 จุด แนสแดค ลดลง 14.59 จุด (0.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,971.48 จุด
วอลล์สตรีทดีดตัวมา 5 วันติด จากความเห็นแนวอะลุ่มอล่วยของเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนเกี่ยวกับแนวทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยและความหวังต่อการเจรจาทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามในวันศุกร์ นักลงทุนเริ่มหันมามองผลประกอบการไตรมาส 4 ของบริษัทต่างๆ ซึ่งจะเริ่มต้นในสัปดาห์หน้า ด้วย เจพี มอร์แกน เชส และสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อื่นๆ จะเป็นบริษัทแรกๆที่มีกำหนดเผยแพร่รายงานออกมา
ด้านราคาทองคำในวันศุกร์(11ม.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย ได้แรงหนุนจากดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,289.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์