รัสเซียทูเดย์ - สาวๆกลุ่มหนึ่งสร้างความตกตะลึงแก่ผู้สัญจรผ่านไปมา ด้วยเปลือยอกประท้วงบนท้องถนนด้านนอกสถานกุงสลซาอุดีอาระเบียในซิดนีย์ เรียกร้องให้ ราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัล-กูนุน ได้รับอนุมัติคำขอลี้ภัย หลังเธอหลบหนีครอบครัวผู้กดขี่ข่มเหงเข้ามาในประเทศไทย และขังตัวเองอยู่ในห้องพักภายในสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อหลบเลี่ยงการถูกเนรเทศ
The Thai authorities have granted UNHCR access to Saudi national, Rahaf Mohammed Al-qunun, at Bangkok airport to assess her need for international refugee protection and find an immediate solution for her situation.
— UNHCR, the UN Refugee Agency (@Refugees) January 7, 2019
Our statement: https://t.co/FVVGdUmHMu
ผู้หญิง 4 คนที่เรียกตัวเองว่า ‘The Secret Sisterhood’ สวมเพียงกางเกงยีนส์และร้องเท้า ยืนชูป้ายข้อความอยู่ด้านนอกสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในย่านกลางเมืองซิดนีย์เมื่อวันพฤหัสบดี(10ม.ค.) ประท้วงกรณีที่ อัล-กูนุน ถูกปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสม
นอกจากชูป้ายประท้วงแล้ว พวกเธอยังเขียนข้อความต่างๆอย่างเช่น "ปล่อยให้เธอเข้ามา", "ผู้หญิงทุกคนมีอิสระเสรีและความปลอดภัย" และ "ราฮาฟ ฮีโร่ของ Sisterhood" อยู่บนแผ่นหลังของพวกเธอ
"เราตัดสินใจเปลือยอกเพราะเราเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนควรมีสิทธิ์แสดงออกอย่างเสรีและปลอดภัย และเราต้องการส่งข้อความถึงราฮาฟว่า ความจริงก็คือเราสามารถทำแบบนั้นได้ในออสเตรเลีย แท้จริงแล้วผู้หญิงทุกคนสามารถอยู่อย่างเสรีและปลอดภัย" ฌักกี เลิฟ ผู้ก่อตั้งกลุ่ม The Secret Sisterhood ให้สัมภาษณ์กับเจแปนไทม์ส
ทั้งนี้ทางกลุ่ม The Secret Sisterhood ยังเริ่มรณรงค์โครงการ GoFundMe เพื่อระดมทุนสำหรับมอบรกรากใหม่และคุ้มกัน ราฮาฟ ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งพวกเธอให้สมญานามว่า "เป็นสัญลักษณ์ระดับโลกของเหล่าผู้หญิงที่พยายามหลบหนีจากการถูกกดขี่ข่มเหง"
ราฮาฟ วัย 18 ปี รอดพ้นจากการถูกเนรเทศกลับสู่ครอบครัวในซาอุดีอาระเบีย เมื่อผู้คนบนสื่อสังคมออนไลน์ไหลบ่าส่งเสียงคร่ำครวญ หลังจากเธอโพสต์ข้อความวิงวอนจากห้องของโรงแรมภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ว่ากลัวจะถูกครอบครัวฆ่าทิ้ง และต้องการขอลี้ภัย
แม้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติอนุมัติสถานะผู้ลี้ภัยให้แก่เธอเมื่อวันพุธ(9ม.ค.) แต่ท้ายที่สุดชะตากรรมที่เหลือของเธอตกอยู่ในมือของรัฐบาลออสเตรเลีย
ปีเตอร์ ดัตตัน รัฐมนตรีมหาดไทยออสเตรเลีย ระบุว่าผู้หญิงรายนี้จะไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นพิเศษ แต่กระบวนการต่างๆจะเหมือนกับผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ ซึ่งความเห็นนี้ทำให้ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเธอจะถูกนำตัวไปพักที่ศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยบนเกาะมานุสหรือไม่
ราฮาฟ หลบหนีจากครอบครัวตอนที่อยู่ในคูเวต ด้วยหวังบินไปยังออสเตรเลียเพื่อขอลี้ภัย แต่เธอถูกสกัดที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเธออ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ทูตซาอุดีอาระเบียรายหนึ่งยึดพาสปอร์ตเอาไว้
