เอพี - ทีมค้นหาสามารถดึงศพออกจากเศษซากหักพังของอาคารอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งของรัสเซีย ออกมาได้เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตจนถึงวันพุธ(2ม.ค.) เพิ่มเป็น 21 รายแล้ว
ในบรรดาศพที่พบในวันพุธ(2ม.ค.) อยู่ใต้ซากหักพังของอาคารในเมืองมักนิโตกอสค์นั้น รวมไปถึงเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ตามรายงานของสื่อมวลชนรัสเซียที่อ้างคำสัมภาษณ์กับกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉิน
ก่อนหน้านี้ทารกชายวัยเพียง 11 เดือนถูกช่วยเหลือออกจากซากหักพังในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่เมื่อวันอังคาร(1ม.ค.) เกือบ 36 ชั่วโมงหลังจากอาคารพังถล่ม โดยตอนนี้หนูน้อยยังอยู่ในขั้นสาหัส แต่อาการยังทรงตัว นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่งในมอสโก หลังจากกระทรวงสาธารณสุขส่งเครื่องบินไปรับมารักษาตัวที่เมืองหลวง ซึ่งอยู่ไกลจากเมืองที่เกิดเหตุราว 1,400 กิโลเมตร
เวเรนิกา สวอร์ทโซยา รัฐมนตรีสาธารณสุขเปิดเผยในวันพุธ(2ม.ค.) ว่าเด็กชายได้รับบาดเจ็บเพียงผิวเผินบริเวณศีรษะและไม่น่าถึงขั้นที่สมองได้รับความเสียหาย
เจ้าหน้าที่ระบุว่ามีผู้พักอาศัยในอาคารดังกล่าวอีก 20 คนที่ยังสูญหาย ในนั้นเป็นเด็กถึง 5 ราย อย่างไรก็ตามโอกาสค้นพบพวกเขาในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่ดูเลือนรางลงไปทุกขณะ หลังจากพื้นที่แถบนี้ต้องเผชิญกับอากาศหนาวสุดขั้วมา 2 คืนติดต่อกันแล้ว โดยอุณหภูมิอยู่ที่ราวๆ -20 องศาเซลเซียส
กระนั้นก็ดีแมวตัวหนึ่งได้รับความช่วยเหลือออกมาจากซากหักพักแบบเป็นๆในช่วงบ่ายวันพุธ(2ม.ค.) หรือราว 60 ชั่วโมงหลังจากอาคารสูง 10 ชั้นพังถล่มลงมาบางส่วน
โศกนาฏกรรมช่วงรุ่งสางของวันจันทร์ เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุระเบิดตูมสนั่น ซึ่งพวกเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าน่าจะมีต้นตอจากแก๊สรั่ว
