รอยเตอร์ - สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กลับมาเปิดสถานทูตในกรุงดามัสกัสอีกครั้งวันพฤหัสบดี(27ธ.ค.) มอบแรงเสริมทางการทูตครั้งใหญ่แก่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด จากหนึ่งรัฐอาหรับซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ และครั้งหนึ่งยังเคยสนับสนุนฝ่ายกบฏในการสู้รบกับผู้นำรายนี้
ยูเออีบอกว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีเป้าหมายคือการคืนความสัมพันธ์อันปกติ และจำกัดความเสี่ยงต่างๆจากการแทรกแซงระดับภูมิภาคใน "กิจการของอาหรับและซีเรีย" ซึ่งฟังเหมือนเป็นการพาดพิงถึงอิหร่าน ที่ให้การสนับสนุนอัสซาด
ธงชาติยูเออีถูกยกขึ้นที่สถานทูต หลังจากมันถูกปิดทำการมาตั้งแต่ช่วงเดือนแรกๆของความขัดแย้งซีเรียหรือราวๆเกือบ 8 ปีก่อน โดยทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์บอกว่าอุปทูตของพวกเขาจะเข้าปฏิบัติหน้าที่ในวันพฤหัสบดี(27ธ.ค.)
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นหนึ่งในหลายรัฐในภูมิภาคที่ให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธต่อต้านอัสซาด แต่พวกเขามีบทบาทไม่โดดเด่นเท่าซาอุดีอาระเบีย, กาตาร์หรือตุรกี
ในขณะที่สงครามซีเรียดำเนินมาเกือบ 8 ปี อัสซาดสามารถกอบกู้ดินแดนเเกือบทั้งหมดให้กลับมาอยู่ในการควบคุม ภายใต้การสนับสนุนจากรัสเซีย, อิหร่านและกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ที่อิหร่านให้การสนับสนุน ในนั้นรวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน
กองทัพของอัสซาดยกระดับการรุกคืบหนักหน่วงขึ้นในปีนี้ และสามารถถล่มฐานที่มั่นสุดท้ายของฝ่ายกบฏใกล้กรุงดามัสกัส รวมถึงทวงคืนดินแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ได้สำเร็จ
เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา โอมาร์ อัล-บาชีร์ ประธานาธิบดีซูดาน กลายเป็นผู้นำรัฐอาหรับคนแรกที่เดินทางเยือนดามัสกัส นับตั้งแต่ความขัดแย้งซีเรียเริ่มต้นขึ้น โดยเขาบินไปลงที่สนามบินดามัสกัส
จุดข้ามชายแดนระหว่างซีเรียและจอร์แดน อีกหนึ่งพันธมิตรของสหรัฐฯที่สนับสนุนกบฏ ได้เปิดทำการอีกครั้งตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคม ขณะที่เครื่องบินโดยสารซีเรียลำหนึ่งได้บินไปยังตูนิเซียในวันพฤหัสบดี(27ธ.ค.) นับเป็นเที่ยวบินแรกในรอบเกือบ 8 ปี
สันนิบาตอาหรับ ระงับสถานภาพสมาชิกของซีเรียในปี 2011 อย่างไรก็ตามล่าสุดทูตอาหรับรายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม เผยกับรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ต้องการอ้าแขนรับซีเรียกลับมา และคาดหมายว่าจะมีเสียงคัดค้านแค่ 3 ถึง 4 รัฐเท่านั้น
เหล่ารัฐอาหรับ ให้การสนับสนุนทั้งด้านอาวุธ, การฝึกฝนและเงินทุนแก้กบฏซีเรีย ผ่านโครงการหนึ่งซึ่งดูแลโดยซีไอเอ จนกระทั่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ สั่งปิดไปเมื่อปีที่แล้ว และอีกความเป็นไปได้หนึ่งที่อาจเป็นตัวส่งเสริมอัสซาด ก็คือการตัดสินใจของทรัมป์ในการถอนกำลังทหารอเมริกาที่ประจำการสนับสนุนพวกนักรบที่นำโดยกองทัพชาวเคิร์ด ทางภาคเหนือและตะวันออกของซีเรีย