xs
xsm
sm
md
lg

จีนฉลองความสำเร็จ 40 ปีปฏิรูปประเทศ สีแขวะมะกัน ย้ำชัดไม่ให้ต่างชาติจูงจมูก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี – สีจิ้นผิงเปรยถึงอเมริกา ลั่นไม่มีใครบงการเส้นทางพัฒนาเศรษฐกิจจีนได้ ขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์ฉลอง 40 ปีนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศ ท่ามกลางความท้าทายและการงัดข้อกับวอชิงตัน

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ปราศรัยในวันอังคาร (18 ธ.ค.) ที่มหาศาลาประชาชนโดยประกาศเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจ พร้อมยืนยันว่า จะไม่เบี่ยงเบนจากระบบพรรคเดียว และไม่รับคำสั่งจากประเทศอื่นเด็ดขาด

ผู้นำแดนมังกรเสริมว่า ความเป็นผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นคุณสมบัติสำคัญที่สุดของลัทธิสังคมนิยมที่มาพร้อมลักษณะพิเศษของจีน อันมาซึ่งคุณประโยชน์สูงสุด

การเฉลิมฉลองมาตรการปฏิรูปที่ริเริ่มโดยอดีตผู้นำ เติ้ง เสี่ยวผิง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 1978 มีขึ้นขณะที่จีนกำลังห้ำหั่นทางการทูตและการค้ากับอเมริกา ทั้งสองประเทศตกลงสงบศึก 90 วันเพื่อเจรจาหาทางออก โดยที่อเมริกามีเป้าหมายในการลดยอดขาดดุลการค้ามหาศาลของตนเอง และกดดันให้จีนปฏิรูปเพื่อยุติการโจรกรรมทรัพย์สินทางปัญญา

สีกล่าวโดยไม่ได้เอ่ยชื่ออเมริกาโดยตรงว่า จีนไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อประเทศใด และจะไม่ยอมให้ต่างชาติมาชี้นำหรือบงการ แต่จะปฏิรูปตามที่ควรจะเป็นและแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ให้สัญญาเดินหน้าปฏิรูปมากขึ้น แต่ประธานาธิบดีจีนไม่ได้ให้รายละเอียดเฉพาะเจาะจง ขณะที่อเมริกาและยุโรปพร่ำบ่นเรื่องการเผชิญอุปสรรคในการเข้าถึงตลาดกว้างใหญ่ไพศาลของจีน ตรงข้ามกับบริษัทจีนที่แสวงหาผลประโยชน์ในตลาดตะวันตกที่เปิดกว้าง

ทั้งนี้ มาตรการปฏิรูปทำให้ประชาชนนับล้านพ้นจากความยากจน และนำจีนเข้าสู่ตำแหน่งประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก ทว่าปัจจุบัน จีนกำลังเผชิญภาวะหนี้พอกพูนและเศรษฐกิจชะลอตัว ปีที่ผ่านมาอัตราเติบโตอยู่ที่ 6.9% และคาดว่าจะลดเหลือ 6.5% ในปีนี้

ในพิธีฉลองเมื่อวันอังคารยังมีการมอบเหรียญรางวัลให้แก่ผู้ส่งเสริมการพัฒนาประเทศกว่า 100 คน ซึ่งรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปในชนบท ผู้ช่วยแก้ปัญหาความยากจน จนถึงคนที่รวยที่สุดในประเทศอย่าง แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา , เหยา หมิง อดีตนักบาสเก็ตบอลระดับตำนาน

แม้วันนี้จีนมีเศรษฐีพันล้านถึง 620 คน จากข้อมูลของนิตยสาร "ฮูรัน รีพอร์ต" ในเซี่ยงไฮ้ แต่การผ่องถ่ายเศรษฐกิจก็นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงต่อระบบการเมืองที่ควบคุมโดยพรรคคอมมิวนิสต์

อู๋ เฉียง นักวิเคราะห์การเมืองในปักกิ่งชี้ว่า การปฏิรูปและการเปิดประเทศทำให้พรรคคอมมิวนิสต์ยังคงอำนาจเผด็จการและอยู่รอดได้หลังสงครามเย็น และเขาคิดว่า จีนตอนนี้เป็นประเทศทุนนิยมภายใต้ระบอบเผด็จการพรรคเดียวหรือลัทธิทุนนิยมที่ควบคุมโดยพรรคเดียว

อู๋เสริมว่า สงครามการค้าอาจเป็นโอกาสให้จีนผลักดันการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น กล่าวคือหากพรรคคอมมิวนิสต์ฉลาดพอ อาจผ่องถ่ายตัวเองเข้าสู่จุดเริ่มต้นในการปฏิรูปครั้งที่สอง รวมทั้งเปิดประเทศและเปลี่ยนแปลงบทบาทของพรรคและรัฐบาล

ทั้งนี้ ตอนที่พรรคคอมมิวนิสต์บังคับใช้มาตรการปฏิรูปในยุคเติ้ง จีนยังคงเผชิญความยากจนและเพิ่งหลุดพ้นจากการปฏิวัติวัฒนธรรมซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดทางสังคมและการเมืองที่เกิดจากนโยบายของ เหมา เจ๋อตง ผู้นำคนก่อนหน้า

การปฏิรูปของเติ้งเริ่มต้นในชนบทโดยเริ่มจากการยกเลิกระบบที่ดินที่เกษตรกรหลายคนร่วมกันบริหารโดยมีรัฐบาลเป็นเจ้าของและควบคุม รวมทั้งยกเลิกระบบคอมมูน ซึ่งต่อมามาตรการปฏิรูปแผ่ขยายเข้าสู่เมืองต่างๆ อย่างรวดเร็ว

เติ้งตระหนักดีว่า มีพลังต่อต้านในเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจ จึงเลือกเมืองทางใต้สุด เช่น เซินเจิ้น เป็นหนูทดลองสำหรับมาตรการปฏิรูปด้วยการกำหนดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งในภายหลังกลายเป็นเมืองที่เติบโตอย่างมากและเป็นแม่แบบสำหรับเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ

ปัจจุบัน เซินเจิ้นเป็นฮับเทคโนโลยีระดับโลก และเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของเทนเซ็นต์และหัวเว่ย บริษัทอินเทอร์เน็ตและบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่แดนมังกรตามลำดับ ขณะเดียวกัน อัตราความยากจนในหมู่ประชากรชนบทลดลงจาก 97.5% เมื่อ 40 ปีที่แล้ว อยู่ที่ 3.1% ในปีที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น