ฟ็อกซ์นิวส์ - มีความเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะดำดิ่งเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า จากความเห็นของ ลิซ แอนน์ ซอนเดอร์ส หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนของชาร์ลส์ ชวาบ
"มีโอกาส 100% ที่เรากำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง" เธอให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล "ในปีหน้า ฉันคิดว่าการค้าคือกุญแจสำคัญ"
ตลาดการเงินโลกสั่นคลอนอย่างหนักในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลงเกือบ 10% จากระดับสูงสุดเมื่อ 2 เดือนก่อน ในขณะที่นักลงทุนมีความกังวลต่อประเด็นต่างๆนานาที่อาจทำเศรษฐกิจหยุดชะงัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน, เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและความไม่แน่นอนว่าอังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรป(เบร็กซิต) ในลักษณะใด
สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯเริ่มต้นขึ้นเมื่อเกือบ 1 ปีก่อนและลงเอยด้วยการรีดภาษีตอบโต้กันไปมาหลายหมื่นล้านดอลลาร์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ และอัตราภาษีจะขยับขึ้นเป็น 25% ในช่วงปลายปี 2018 ทำให้รัฐบาลปักกิ่ง ต้องตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตามความตึงเครียดระหว่างสองชาติดูเหมือนผ่อนคลายลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดย จีน ตกลงระงับแผนขึ้นภาษีรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ปักกิ่งจะเรียกเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐฯที่ระดับเพียง 15% จากปัจจุบันเรียกเก็บที่ระดับ 40%
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ ปักกิ่งเคยประกาศจะขึ้นภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ 144 รายการที่นำเข้าจากสหรัฐฯอีก 25% ตอบโต้ที่อเมริการีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
ซอนเดอร์ส บอกว่าระยะทางจากปัจจุบันสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งต่อไป ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าสหรัฐฯและจีนสามารถจัดการกับปัญหาความสมดุลทางการค้าได้หรือไม่ "ฉันคิดว่าในปีนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นภาวะถดถอยทางการเงินมากกว่าที่จะเป็นภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ยกเว้นแต่เรายังเดินหน้าสู่การรีดภาษีเต็มรูปแบบ"