เมย์เลื่อนโหวตเบร็กซิต-รุดพบผู้นำอียู บรัสเซลส์ดักคอปิดทางต่อรองเงื่อนไข

รอยเตอร์ – เมย์เลื่อนการลงมติรับรองข้อตกลงเบร็กซิตของสภาเพื่อต่อรองให้อียูยอมประนีประนอมมากขึ้น ทว่าบรัสเซลส์ยืนกรานไม่เปลี่ยนเงื่อนไขใดๆ แถมสำทับว่า จะเริ่มต้นเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่ลอนดอนถอนตัวโดยปราศจากข้อตกลง ด้านพรรคแรงงานของอังกฤษเรียกร้องขอบริหารประเทศแทน ชี้รัฐบาลไร้น้ำยา

การกลับลำกะทันหันของนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ก่อนที่รัฐสภาอังกฤษจะลงมติในวันอังคาร (11 ธ.ค.) ไม่ถึง 30 ชั่วโมง นำไปสู่ความเป็นไปได้ที่ลอนดอนจะถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) โดยไม่มีข้อตกลงใดๆ การบรรลุข้อตกลงในนาทีสุดท้าย หรือการทำประชามติเกี่ยวกับเบร็กซิตอีกครั้ง

การตัดสินใจของเมย์มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ศาลยุติธรรมยุโรป ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของอียู ระบุในคำวินิจฉัยฉุกเฉินว่า อังกฤษสามารถเพิกถอนการแจ้งความประสงค์ถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) ตามมาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนโดยไม่ถูกลงโทษใดๆ

เมย์ยอมรับว่า อาจต้องเผชิญความพ่ายแพ้ทางการเมืองและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 หากสภาลงมติตามกำหนดในวันอังคาร และเผยว่า จะเดินทางไปบรัสเซลส์เพื่อขอการรับประกันจากสหภาพยุโรป (อียู) เรื่อง “ไอริชแบ็คสต็อป” หรือนโยบายที่รับประกันว่า เกาะไอร์แลนด์จะไม่กลับไปใช้มาตรการพรมแดนแบบเข้มงวด

เมย์พบนายกรัฐมนตรี มาร์ก รัตต์ ของเนเธอร์แลนด์ และนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนีในวันอังคาร ก่อนร่วมประชุมกับผู้นำอียูคนอื่นๆ

ผู้นำหญิงของอังกฤษปรามไม่ให้รัฐสภาขัดขวางเจตนารมณ์ของประชาชนในการถอนตัวจากอียู และเตือนให้หลีกเลี่ยงสถานการณ์การถอนตัวโดยปราศจากข้อตกลงใดๆ รวมทั้งระบุว่า การทำประชามติรอบใหม่รังแต่ทำให้ประเทศชาติแตกแยกมากขึ้น

สมาชิกรัฐสภาจำนวนมากมองว่า การเลื่อนการโหวตเป็นความล้มเหลวของเมย์ที่พยายามมาตลอด 2 ปีเต็มเพื่อระดมการสนับสนุนข้อตกลงเบร็กซิต ซึ่งถูกวิจารณ์ว่า แม้ถอนตัวแต่อังกฤษยังคงอยู่ภายในวงโคจรของอียู หลายคนยังไม่เชื่อคำพูดของเมย์ที่บอกว่า ผู้นำอียูพร้อมหารือเรื่องแบ็คสต็อป รวมทั้งเห็นว่า แม้เป็นเช่นนั้นจริงก็คงไม่มีประโยชน์อะไร หากไม่มีการบรรจุประเด็นนี้ในข้อตกลงเบร็กซิต

เจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ประกาศว่า อังกฤษไม่มีรัฐบาลที่สามารถบริหารประเทศได้อีกต่อไป และเรียกร้องให้เมย์เปิดทางให้พรรคแรงงานทำหน้าที่แทน

ทั้งพรรคอนุรักษ์นิยมของเมย์และพรรคแรงงานต่างประกาศสนับสนุนเบร็กซิต ถึงกระนั้น หากไม่มีข้อตกลง การถอนตัวจะนำไปสู่ปัญหามากมาย เช่น การตรวจสอบที่ด่านศุลกากรอาจหยุดชะงัก ส่งผลให้ต้องปิดท่าเรือและกระทบต่อการค้า ดังนั้น รัฐสภาจึงถูกกดดันอย่างหนักเช่นกันให้หลีกเลี่ยงการถอนตัวจากอียูโดยปราศจากข้อตกลง

ทั้งนี้ รัฐสภาอังกฤษนัดอภิปรายฉุกเฉินในวันอังคารเกี่ยวกับการตัดสินใจเลื่อนการลงมติของเมย์

ทางด้านบรัสเซลส์แสดงท่าทีเย็นชาต่อแผนการของผู้นำอังกฤษ โดยทาง โดนัลด์ ทัสค์ ประธานสภายุโรป เผยว่า พร้อมหารือเพื่อให้กระบวนการให้สัตยาบันรับรองของอังกฤษราบรื่น แต่จะไม่ยอมทบทวนการเจรจาข้อตกลงเบร็กซิตหรือไอริชแบ็คสต็อปแต่อย่างใด และสำทับว่า ขณะที่กำหนดการถอนตัวของอังกฤษในวันที่ 29 มีนาคมปีหน้าใกล้เข้ามาทุกที อียูจะหารือถึงความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ที่ปราศจากข้อตกลงเบร็กซิต และจะมีการประชุมเรื่องการถอนตัวของอังกฤษในซัมมิตอียูวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้

นาตาลี ลัวโซ รัฐมนตรีกิจการยุโรปของฝรั่งเศส แสดงความเห็นหลังการตัดสินใจของเมย์ว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่อังกฤษจะถอนตัวจากอียูโดยปราศจากข้อตกลง

ไฮโก มาส รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ขานรับว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ไขข้อตกลงเบร็กซิต ขณะที่นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ ลีโอ วารัดการ์ เชื่อว่า จะมีการเตรียมพร้อมมากขึ้นเพื่อรับสถานการณ์การถอนตัวของอังกฤษโดยปราศจากข้อตกลง