xs
xsm
sm
md
lg

In Pics: ‘ปูติน’ ยิ้มร่าต้อนรับมกุฎราชกุมารซาอุฯ ในเวที G20 แต่ผู้นำยุโรปยังเย็นชา

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงรอดพ้นจากการถูกโดดเดี่ยวในเวทีซัมมิต G20 หลังได้รับการทักทายอย่างอบอุ่นจากประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ขณะที่ผู้นำยุโรปแสดงอาการหมางเมินอย่างเห็นได้ชัด และทวงถามเรื่องการตายของนักข่าวคนดัง

ผ่านมาไม่ถึง 2 เดือนหลังจากคอลัมนิสต์ฝีปากกล้า จามาล คาช็อกกี (Jamal Khashoggi) ถูกทีมนักฆ่าซาอุฯ สังหารโหดภายในสถานกงสุลที่อิสตันบูลเมื่อวันที่ 2 ต.ค. มกุฎราชกุมารซาอุฯ ได้เสด็จฯ ไปกระทบไหล่ผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณกลายๆ ว่าคดีอื้อฉาวนี้ไม่อาจบั่นทอนบทบาทและอำนาจของพระองค์ได้

ปูติน และเจ้าชายโมฮัมเหม็ดวัย 33 พรรษาจับมือทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ดูราวกับเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันมานาน ท่ามกลางกระแสข่าวว่ารัสเซียกับซาอุดีอาระเบียเพิ่งตกลงกันได้หมาดๆ ก่อนที่ผู้นำกลุ่มโอเปกจะประชุมกันที่กรุงเวียนนาในวันที่ 6 ธ.ค. ว่าจะลดกำลังผลิตน้ำมันดิบลง เพื่อพยุงราคาไม่ให้ตกต่ำไปกว่านี้

คิริลล์ ดมิทรีฟ ประธานกองทุนความมั่นคงแห่งรัสเซีย บอกกับสื่อมวลชนว่า ปูติน จะพบกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ดในวันนี้ (1 ธ.ค.) เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมการลงทุนของซาอุฯ ในรัสเซียซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ดี มกุฎราชกุมารซาอุฯ ทรงเผชิญท่าทีเย็นชาจากประธานาธิบดี เอมมานูแอล มาครง แห่งฝรั่งเศส โดยมีการเปิดเผยคลิปเสียงที่เจ้าชายตรัสกับ มาครง เป็นภาษาอังกฤษว่า “ไม่ต้องกังวลไป” ขณะที่ผู้นำหนุ่มเมืองน้ำหอมก็ไม่ลดราวาศอก และทูลกลับไปว่า “ผมกังวลแน่นอน ผมกังวล”

มาครง ยังพูดว่า “พระองค์ไม่เคยฟังผมเลย” ซึ่งเจ้าชายโมฮัมเหม็ดตรัสตอบว่า “ผมจะฟังคุณแน่นอน”

แม้คลิปดังกล่าวจะได้ยินไม่ชัดนัก และไม่สามารถยืนยันบริบทของการสนทนาได้ แต่ก็ถูกนำไปแชร์และวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์

ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสยืนยันว่า มาครง ได้คุยกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ดเรื่องคาช็อกกี รวมถึงปฏิบัติการแทรกแซงสงครามเยเมนของกลุ่มพันธมิตรริยาด ซึ่งทำให้พลเมืองหลายล้านคนต้องอดอยากแร้นแค้นถึงขั้นเป็นวิกฤตมนุษยธรรมครั้งเลวร้ายที่สุดในโลก

มาครง บอกกับเจ้าชายว่า รัฐบาลยุโรปต้องการให้ตั้งทีมสืบสวนนานาชาติร่วมคลี่คลายคดีฆาตกรรมคาช็อกกี และย้ำถึง “ความจำเป็นที่จะต้องแสวงหาแนวทางการเมืองเพื่อยุติสงครามเยเมน”

ทั้งนี้ ยังปรากฏภาพที่เจ้าชายโมฮัมเหม็ดยืนสนทนากับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และ อิวองกา ทรัมป์ บุตรสาวด้วย ซึ่งทำเนียบขาวรีบออกมาปฏิเสธทันควันว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ขณะที่ ทรัมป์ ก็ยืนยันว่า “เราไม่ได้หารืออะไรกันเลย”

ก่อนจะเกิดคดีสังหารนักข่าวคนดัง ทรัมป์ เคยแสดงออกชัดเจนว่าเป็นแฟนตัวยงของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด ซึ่งทรงมุ่งมั่นปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมซาอุฯ ให้เข้าสู่ความทันสมัย ทั้งยังทรงสนิทสนมกับ เจเร็ด คุชเนอร์ สามีของ อิวองกา ด้วย

ทรัมป์ ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจต่อการตายของ คาช็อกกี ซึ่งอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ และทำงานเป็นคอลัมนิสต์ให้กับวอชิงตันโพสต์ แต่ขณะเดียวกันก็ย้ำว่าตน 'ไม่แคร์' ว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ดจะทรงเกี่ยวข้องหรือไม่ เนื่องจากซาอุฯ นั้นเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญต่อสหรัฐฯ ทั้งในแง่ของธุรกิจและการป้องปรามอิทธิพลอิหร่าน

ด้านนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษได้ให้สัมภาษณ์กับสกายนิวส์ก่อนที่การประชุม G20 จะเริ่มขึ้นว่า เธอจะพยายามกดดันให้มกุฎราชกุมารซาอุฯ ทั้งในเรื่องเยเมนและคาช็อกกี

“รัฐบาลซาอุฯ จำเป็นต้องรับรองว่ากระบวนการสอบสวนจะเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ เชื่อถือได้ และโปร่งใส ผลที่ออกมาจะต้องทำให้ผู้คนรู้สึกเชื่อมั่น และมีการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ” เมย์ กล่าว

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนก็เป็นผู้นำอีกคนที่แสดงไมตรีจิตต่อองค์มกุฎราชกุมารซาอุฯ โดยยืนยันว่าปักกิ่งพร้อมให้การสนับสนุนแผนปฏิรูปของริยาดอย่างแข็งขัน


กำลังโหลดความคิดเห็น