รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ส่งเรือนาวี 2 ลำล่องผ่านช่องแคบไต้หวันในวันพุธ (28 พ.ย.) ถือเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้ สะท้อนจุดยืนของอเมริกาที่มุ่งเพิ่มความถี่ในการสำแดงเสรีภาพบริเวณน่านน้ำซึ่งมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ โดยไม่แคร์เสียงประท้วงจากจีน
ปฏิบัติการของเรือพิฆาต ยูเอสเอส สต็อกเดล (USS Stockdale) และเรือเติมเชื้อเพลิง พีคอส (Pecos) คาดว่าจะทำให้จีนโกรธแค้นหนักขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็เป็นสัญญาณสนับสนุนที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งถึงไต้หวัน ท่ามกลางความบาดหมางระหว่างไทเปและปักกิ่ง
“การเดินทางผ่านช่องแคบไต้หวันของเรือทั้ง 2 ลำแสดงถึงเจตนารมณ์ของสหรัฐฯ ที่จะคงเสรีภาพและความเปิดกว้างในอินโด-แปซิฟิก” กองเรือแปซิฟิกของสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง “กองทัพเรือสหรัฐฯ จะยังคงทำการบิน ล่องเรือ และปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ใดๆ ก็ตามที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาต”
ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันยืนยันว่า เรืออเมริกันทั้ง 2 ลำได้ล่องผ่านน่านน้ำสากลภายในช่องแคบไต้หวันตามปกติ และกองทัพไต้หวันได้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
ล่าสุด ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ จากจีน
ปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนที่ ทรัมป์ จะมีกำหนดหารือนอกรอบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ระหว่างการประชุมซัมมิต G20 ที่อาร์เจนตินาในช่วงปลายสัปดาห์
ก่อนหน้านี้ กองทัพเรือสหรัฐฯ เคยส่งเรือเข้าไปยังน่านน้ำสากลของช่องแคบไต้หวันเมื่อเดือน ก.ค. หลังเว้นช่วงไปนานถึง 1 ปี
แม้ไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ แต่สหรัฐฯ ก็มีข้อผูกพันทางกฎหมายที่จะต้องสนับสนุนให้ไต้หวันสามารถป้องกันตนเอง รวมถึงเป็นซัพพลายเออร์อาวุธให้ด้วย
ข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า วอชิงตันขายอาวุธให้ไต้หวันคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา
จีนได้เพิ่มมาตรการกดดันหนักขึ้นเรื่อยๆ เพื่อยืนยันในอธิปไตยเหนือเกาะไต้หวัน ซึ่งปักกิ่งถือว่าเป็นเพียงแค่มณฑลหนึ่งใน ‘จีนเดียว’ (One China)
เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive Party - DPP) ของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในศึกเลือกตั้งระดับท้องถิ่น โดยสูญเสียที่นั่งนายกเทศมนตรีเมืองสำคัญๆ ให้กับพรรคก๊กมินตั๋งซึ่งมีแนวทางเป็นมิตรกับจีนมากกว่า