เอเอฟพี - ตำรวจและทหารปาปัวนิวกินีบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาที่กรุงพอร์ตมอร์สบีวันนี้ (20 พ.ย.) โดยมีการทุบกระจก พังเฟอร์นิเจอร์ และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่สภา เนื่องจากโกรธแค้นที่ไม่ได้ ‘เงินโบนัส’ จากการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างที่ปาปัวนิวกินีเป็นเจ้าภาพการประชุมซัมมิตความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก)
ปาปัวนิวกินีซึ่งเป็นประเทศที่มีฐานะยากจนในแปซิฟิกได้ปูพรมแดงต้อนรับคณะผู้นำจากทั่วโลกซึ่งเดินทางมาประชุมเป็นเวลา 2 วัน โดยรัฐบาลถึงกับทุ่มเงินซื้อรถหรูยี่ห้อ ‘มาเซราติ’ ซึ่ง 40 คันเอาไว้รับส่งบรรดาผู้นำ
ไบรอัน เครเมอร์ สมาชิกรัฐสภาปาปัวนิวกินี กล่าวในคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กว่า ทหารและตำรวจกลุ่มนี้มุ่งหน้าไปยังรัฐสภา เพราะไม่พอใจผลการหารือกับผู้บัญชาการตำรวจและรัฐมนตรีกระทรวงตำรวจในเรื่องค่าตอบแทน
เครเมอร์ เผยด้วยว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐสภาหลายคนได้รับบาดเจ็บจากการเผชิญหน้า ก่อนที่ทหารตำรวจกลุ่มนี้จะยอมกลับออกไป และรวมตัวกันอยู่ด้านนอกเพื่อเรียกร้องขอคำตอบจากรัฐบาล
คลิปดังกล่าวเผยให้เห็นกระถางต้นไม้ที่ถูกทุ่มจนแตก กรอบรูปบนผนังร่วงลงมาที่พื้น รวมถึงเศษแก้วน้ำและเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกทุบทำลาย
โดมินิก คาคัส โฆษกตำรวจปาปัวนิวกินี ยืนยันว่าเกิดเหตุวุ่นวายที่รัฐสภาจริง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีตำรวจทหารเกี่ยวข้องทั้งหมดกี่นาย
ผู้เห็นเหตุการณ์ที่ด้านนอกรัฐสภาบอกกับเอเอฟพีว่าเห็นตำรวจและทหาร ‘หลายร้อยนาย’ ยืนอออยู่ที่บันไดทางขึ้นอาคาร และส่งเสียงโวยวายว่าไม่ได้เงินค่าล่วงเวลา 350 กีนา (ประมาณ 3,400 บาท) จากการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงการประชุมเอเปก
“เหตุการณ์ที่ด้านนอกรัฐสภาตึงเครียดมาก มีรถตำรวจและทหารจอดอยู่หลายสิบคัน” พยานคนหนึ่งเผย พร้อมระบุว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่ผู้ประท้วงได้ปิดถนนและกันพื้นที่รอบๆ โรงแรมแห่งหนึ่ง ก่อนจะเดินต่อไปยังสนามกีฬาที่อยู่ใกล้ๆ กัน
คริสโตเฟอร์ ฮอว์กินส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารจัดการการประชุมเอเปกของปาปัวนิวกินี ชี้แจงว่า โดยปกติแล้วการจ่ายเงินโบนัส “จะใช้เวลาดำเนินการราว 1 สัปดาห์” หลังจากที่กิจกรรมสำคัญเสร็จสิ้นลง
“การประชุมเพิ่งจะปิดฉากไปเมื่อ 2 วันก่อน และการรักษาความมั่นคงก็กำลังลดระดับลงสู่ภาวะปกติ” ฮอว์กินส์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอบีซีของออสเตรเลีย
“เราเริ่มทยอยจ่ายโบนัสให้เจ้าหน้าที่แต่ละคนแล้ว ขอให้สมาชิกหน่วยความมั่นคงทั้งหลายไปตรวจสอบบัญชีเงินเดือนของตัวเอง”
ชาวปาปัวนิวกินีจำนวนไม่น้อยรู้สึกโกรธแค้นที่รัฐบาลใช้เงินมหาศาลไปกับการเป็นเจ้าภาพเอเปก ทั้งที่แทบไม่มีปัญญาจ่ายเงินเดือนครู ขณะที่พลเมืองราว 8 ล้านคนก็กำลังเผชิญการระบาดของโรคโปลิโอและไข้มาลาเรีย
