ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์บอก จีน“เป็นเจ้าของครอบครอง”ทะเลจีนใต้อยู่แล้ว

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

China ‘already in possession’ of South China Sea, says Duterte
By Asia Times staff
16/11/2018

ระหว่างเข้าร่วมการประชุมซัมมิตอาเซียนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ พูดกับผู้สื่อข่าวว่า จีนเป็นเจ้าของครอบครองทะเลจีนใต้อยู่แล้ว ทำไมจะต้องสร้างความตึงเครียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมาอีก

ขณะที่สหรัฐฯเพิ่มทวีการวิพากษ์วิจารณ์กิจกรรมของจีนในทะเลจีนใต้อย่างต่อเนื่อง ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ กลับกำลังสบายอกสบายใจกับการขยับเข้าใกล้ชิดปักกิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

ระหว่างที่เขาพูดกับพวกนักข่าวตอนเข้าร่วมการประชุมซัมมิตของสมาคมอาเซียนที่สิงคโปร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูเตอร์เดได้วิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯว่ากำลังยั่วยุจีน โดยในเวลาเดียวกันนั้นเขายักไหล่ไม่ให้น้ำหนักอะไรเมื่อถูกถามเรื่องที่จีนกำลังขยายการปรากฏตัวบนเกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้ ซึ่งหลายๆ แห่งฟิลิปปินส์ก็ได้อ้างกรรมสิทธิ์ด้วยเช่นกัน

“จีนเป็นเจ้าของครอบครอง (ทะเลจีนใต้) อยู่แล้ว เวลานี้มันตกอยู่ในกำมือของพวกเขาแล้ว” หนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทมส์ของสิงคโปร์รายงานโดยอ้างว่านี่เป็นคำพูดของเขา (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/duterte-says-china-already-in-possession-of-south-china-sea-tells-us-to-end-military)

“ดังนั้นทำไมพวกคุณจะต้องสร้างความตึงเครียดขึ้นมาเรื่อยๆ ... ซึ่งย่อมจะต้องถูกตอบโต้อย่างรวดเร็วจากจีน?” เขาตั้งคำถาม “จีนอยู่ที่นั่นแล้ว ... นี่คือความเป็นจริง อเมริกาและทุกๆ คนควรที่จะตระหนักรับรู้ความจริงที่ว่าพวกเขาอยู่ที่นั่นแล้ว”

ดูเตอร์เตเรียกร้องอย่างเจาะจงเป็นพิเศษ ให้สหรัฐฯปล่อยจีนและเหล่าประเทศอาเซียนตัดสินใจว่าจะแก้ไขคลี่คลายข้อพิพาททางดินแดนกันอย่างไร ขณะเดียวกันเขาก็วิพากษ์วิจารณ์การเอ็กเซอร์ไซส์สำแดงเสรีภาพในการเดินเรือ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่นำโดยสหรัฐฯ

“ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังดีเยี่ยมอยู่แล้วระหว่างจีนกับชาติต่างๆ ในอาเซียน ยกเว้นแต่ข้อเท็จจริงที่ว่ามีความไม่ลงรอยกันระหว่างพวกชาติตะวันตกกับจีน” เขากล่าว

ความคิดเห็นเช่นนี้ของดูเตอร์เต เป็นการตำหนิติเตียนคำปราศรัยของรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ของสหรัฐฯ ต่อประชุมซัมมิตอาเซียน โดยที่ในคำปราศรัยดังกล่าว เพนซ์บอกว่า “จักรวรรดิและการก้าวร้าวรุกรานนั้นไม่มีที่มีทางให้อยู่ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก” ซึ่งดูเหมือนเขามุ่งหมายจะพูดกระทบไปถึงจีน

“ทะเลจีนใต้ไม่ได้เป็นของชาติใดชาติหนึ่ง และพวกคุณแน่ใจได้เลยว่า สหรัฐฯจะยังคงเดินเรือและบินไปยังทุกหนทุกแห่งซึ่งกฎหมายระหว่างประเทศอนุญาต และผลประโยชน์แห่งชาติของเราเรียกร้องต้องการ” เพนซ์กล่าว

“ขอให้ผมพูดให้กระจ่างชัดเจน การที่จีนเสริมสร้างแสนยานุภาพทางทหารและขยายดินแดนในทะเลจีนใต้นั้นเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและมีอันตราย มันเป็นการคุกคามอธิปไตยของชาติจำนวนมากและเป็นภัยต่อความรุ่งเรืองมั่งคั่งของโลก” เขากล่าว

ปรากฏว่าทางด้านจีนได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างไม่ชักช้า โดยที่ หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงที่กรุงปักกิ่งในวันเดียวกัน (วันศุกร์ที่ 16 พ.ย.) ว่า ไม่มีประเทศใดเลย ซึ่งรวมทั้งสหรัฐฯด้วย ได้เคยแสดงหลักฐานใดๆ ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเสรีภาพในการเดินเรือ หรือในการบินผ่านทะเลจีนใต้

“ดิฉันคงต้องขอโทษที่จะต้องเตือนมิสเตอร์เพนซ์ให้ระลึกว่า สหรัฐฯนั้นยังไม่ได้ให้สัตยาบันรับรองอนุสัญญากฎหมายทะเลของสหประชาชาติ (United Nations Law of the Sea Convention หรือ UNCLOS) เลย” โฆษกหญิงผู้นี้กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันของกระทรวง

“ถ้าสหรัฐฯสามารถที่จะให้สัตยาบันแต่เนิ่นๆ และยึดมั่นปฏิบัติตามอนุสัญญา UNCLOS แล้ว ดิฉันคิดว่านี่จะเป็นประโยชน์มากยิ่งกว่า สำหรับการพิทักษ์ปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่ทะเลจีนใต้”

นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ดูเตอร์เตได้ดำเนินมาตรการหลายๆ อย่างเพื่อลดขนาดความร่วมมือทางทหารระหว่างสหรัฐฯกับฟิลิปปินส์ ซึ่งยังคงมีข้อผูกมัดต่อกันในฐานะเป็นพันธมิตรที่มีสนธิสัญญารองรับ เวลาเดียวกันนั้น เขาก็ทำงานเพื่อกระชับสายสัมพันธ์กับปักกิ่งให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และในปัจจุบันคณะบริหารของเขากำลังหารือกับปักกิ่งในเรื่องการจัดทำข้อตกลงร่วมสำรวจน้ำมันในทะเลจีนใต้

(หมายเหตุผู้แปล: ผู้แปลได้เพิ่มเติมข้อมูลจากรายงานข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ด้วย ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.reuters.com/article/us-singapore-usa-pence/pence-says-south-china-sea-doesnt-belong-to-any-one-nation-idUSKCN1NL08X)