เอเอฟพี – พายุไซโคลนคชะ (Gaja) ซัดถล่มชายฝั่งภาคตะวันออกของอินเดียเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (16 พ.ย.) ส่งผลบ้านเรือนพังเสียหายและต้นไม้หักโค่นไปหลายพันต้น ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 11 คน
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาอินเดียรายงานว่า ไซโคลนคชะทำให้เกิดฝนตกหนักที่รัฐทมิฬนาฑู หลังจากพายุได้พัดขึ้นฝั่งที่เมืองนากาปัตตินัม (Nagapattinam) ด้วยความเร็วลม 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (16)
พรรค All India Anna Dravida Munnetra Kazhagam (AIADMK) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลท้องถิ่นของรัฐทมิฬนาฑูประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า อิทธิพลของพายุไซโคลนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันบริเวณชายฝั่งอ่าวเบงกอล คร่าชีวิตพลเมืองไปแล้วอย่างน้อย 11 คน แต่ยังไม่เผยรายละเอียดอื่นๆ
ฝ่ายบริหารรัฐทมิฬนาฑูประกาศมอบเงินชดเชยให้แก่ครอบครัวเหยื่อรายละ 1 ล้านรูปี ขณะที่อาสาสมัครกู้ภัยพยายามซ่อมแซมถนนและระบบไฟฟ้าที่พังเสียหาย
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาอินเดียคาดการณ์ว่า พายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกและอ่อนกำลังลงก่อนออกสู่ทะเลอาหรับ
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ และมีความเสี่ยงเกิดดินถล่ม
ทางการได้ระดมหน่วยกู้ภัยหลายพันคน พร้อมเฮลิคอปเตอร์ เรือยาง และชุดประดาน้ำเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย และได้ออกประกาศเตือนชาวประมงตั้งแต่วันอาทิตย์ (11) ให้งดออกเรือชั่วคราว
ไซโคลนคชะเป็นพายุขนาดใหญ่ลูกที่ 2 ที่ซัดถล่มชายฝั่งตะวันออกอินเดียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ตามหลังไซโคลนติตลี (Titli) ซึ่งถล่มรัฐโอริสสาเมื่อเดือน ต.ค. และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน
ภาคใต้ของอินเดียมักจะเผชิญพายุในช่วงระหว่างเดือน เม.ย. – ธ.ค. โดยปีที่แล้วไซโคลนออกคี (Ockhi) ก็ได้คร่าชีวิตผู้คนในรัฐทมิฬนาฑูและเกรละไปเกือบ 250 คน
