เอเอฟพี - สหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (15 พ.ย.) กำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจชาวซาอุดีอาระเบีย 17 คน ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนฆาตกรรมนายจามาล คาช็อกกี นักหนังสือพิมพ์คนดัง ในนั้นรวมถึงเหล่าผู้ช่วยระดับสูงของมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน
มาตรการคว่ำบาตรถูกแถลงออกมา หลังจากอัยการรัฐของริยาดเผยว่ากำลังร้องขอให้ศาลลงโทษประหารชีวิต 5 ใน 11 ผู้ต้องสงสัยที่ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมคาช็อกกี แต่มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ดพ้นจากข้อกล่าวหา
“พวกเจ้าหน้าที่ซาอุดีฯที่เรากำลังคว่ำบาตรเกี่ยวข้องกับการฆ่าจามาล คาช็อกกี อย่างน่ารังเกียจ บุคคลเหล่านี้ที่เจาะจงฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมต่อนักหนังสือพิมพ์คนหนึ่ง ซึ่งอยู่อาศัยและทำงานในสหรัฐฯ ต้องเผชิญผลสนองต่อการกระทำของพวกเขา” สตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีคลังอเมริการะบุ
ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรยังมีขึ้นท่ามกลางความขุ่นเคืองอย่างกว้างขวางในหมู่พันธมิตรของซาอุดีฯ ต่อเหตุฆ่าหั่นศพคาช็อกกี ภายในสถานกงสุลซาอุดีฯ ประจำอิสตินบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม
สำหรับ คาช็อกกี วัย 59 ปี เป็นผู้สื่อข่าวอาวุโสและคอลัมนิสต์ของวอชิงตันโพสต์รวมถึงสื่อมวลชนนานาชาติอื่นๆ โดยเดิมทีเขาเป็นอดีตคนวงในราชวงศ์ซาอุดีอาระเบียก่อนผันตัวมาเป็นฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์นโยบายต่างๆ ของริยาด และเป็นนักวิจารณ์ตัวยงของมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด พระโอรสของกษัตริย์ซัลมาน
ชาวซาอุดีอาระเบีย 17 คนที่ถูกคว่ำบาตรนั้น รวมไปถึง ซาอุด อัล-กาห์ตานี และ มาเฮอร์ มูเตรบ ผู้ช่วยคนสำคัญของเจ้าชายผู้ทรงอิทธิพล และโมฮัมเหม็ด อัล-โอไทบี กงสุลใหญ่ประจำสถานกงสุลในอิสตันบูล ตอนที่ คาช็อกกี ถูกฆ่า
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า กาห์ตานี ซึ่งเคยเป็นมือขวาของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด มานาน มีส่วนในการวางแผนและดำเนินปฏิบัติการสังหารคาช็อกกี อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้ชี้นิ้วไปยังเจ้าชายโมฮัมเหม็ดแม้แต่น้อย ในขณะที่รัฐบาลซาอุดีฯยืนยันว่าพระองค์ไม่ได้เป็นผู้ออกคำสั่งปฏิบัติการดังกล่าว
มาตรการคว่ำบาตรนี้ซึ่งดำเนินการภายใต้กฎหมายความรับผิดชอบต่อสิทธิมนุษยชนสากลของสหรัฐฯ จะทำการอายัดทรัพย์สินใดๆ ของพวกที่ถูกขึ้นบัญชีดำภายใต้ขอบเขตอำนาจของอเมริกา และห้ามบุคคลอเมริกันและเหล่าบริษัทของสหรัฐฯ ทำธุรกิจคบค้ากับคนเหล่านั้น
หลังถูกกดดันอย่างหนักจากสหรัฐฯ, อังกฤษ, ฝรั่งเศส และตุรกี ทางริยาดต้องยอมรับสารภาพว่าคาช็อกกีถูกฆาตกรรมในสถานกงสุล และบอกว่าจะลงโทษกลุ่มคนที่ก่อเหตุดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี (15 พ.ย.) อัยการรัฐของซาอุดีอาระเบีย แถลงว่าได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 21 คน และในนั้นมี 12 คนที่ถูกตั้งข้อหา และกำลังร้องขอโทษประหารชีวิต 5 ใน 12 คนดังกล่าว
มนูชิน บอกว่าสหรัฐฯ จะเดินหน้ากดดันริยาดอย่างไม่ลดละ เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรมในคดีนี้