เอเจนซีส์ - “อาลีบาบา” ของ “แจ็ค หม่า” สร้างปรากฏการณ์ชอปปิ้งออนไลน์ โกยยอดขายสนั่น “วันคนโสด” ปีนี้ เมื่อวันอาทิตย์ (11 พ.ย.) ที่ผ่านมา เป็นสถิติใหม่ 213,500 ล้านหยวน (30,700 ล้านดอลลาร์) ทั้งนี้ เฉพาะชั่วโมงแรกที่เปิดขาย กวาดรายได้ไปทั้งสิ้น 10,000 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม อัตราเติบโตของยอดขายประจำปีกลับลดลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี
นักช้อปในจีนและทั่วโลกแย่งชิงสินค้ายอดนิยม อาทิ ไอโฟน เฟอร์นิเจอร์ นมผงสำหรับทารก กันอย่างคึกคัก นับแต่ที่ อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เปิดวันมหกรรมชอปปิ้งแห่งปี ที่เรียกว่า “วันคนโสด” หรือ “ดับเบิล 11” (วันที่ 11 เดือน 11) ซึ่งถือเป็นมหกรรมการขายออนไลน์ครั้งใหญ่ที่สุดของโลก ทำยอดขายแซงหน้าแชมป์โลกเดิมอย่างมหกรรมหลังเทศกาลวันหยุดขอบคุณพระเจ้าของอเมริกา ทั้งแบล็กฟรายเดย์ และ ไซเบอร์มันเดย์ รวมกัน
เทศกาลวันหยุดขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐฯ ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายน ซึ่งใกล้กับเทศกาลคริสต์มาสที่ผู้คนจะมอบของขวัญกัน ดังนั้น ห้างร้านต่างๆ จะจัดงานโปรโมตลดราคา และเปิดร้านตั้งแต่เช้ามืดวันศุกร์ จึงเรียกกันว่า แบล็กฟรายเดย์ ต่อมาเมื่อ อี-คอมเมิร์ซ เป็นที่นิยม ในวันจันทร์ถัดมา ร้านค้าออนไลน์จึงจัดงานโปรโมตไซเบอร์มันเดย์ด้วย
สำหรับที่มาของเทศกาล “วันคนโสด” นั้น มาจากนักศึกษาจีนกลุ่มหนึ่งที่ริเริ่มให้วันที่ 11 เดือน 11 เป็นวันสำหรับคนโสด เพื่อตอบโต้กับวันวาเลนไทม์ ทว่า ต่อมากลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเทศกาลช้อปออนไลน์นานหนึ่งเดือน ซึ่งมีจุดพีคที่มหกรรมลดกระหน่ำ 24 ชั่วโมง ในวันที่ 11 พฤศจิกายน
ปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ 10 อาลีบาบาใช้เวลาแค่ 16 ชั่วโมง ก็ทำยอดขายเท่ากับสถิติยอดขายตลอดทั้งวันของปีที่แล้วที่ 168,000 ล้านหยวน
อย่างไรก็ตาม อัตราเติบโตของยอดขายกลับลดลงจาก 39% เมื่อปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 27% ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และบังเกิดขึ้นขณะที่อาลีบาบากำลังเผชิญแนวโน้มยอดขายชะลอตัวท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับอเมริกาที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแดนมังกรอย่างชัดเจน
ช่วงต้นเดือนนี้ ยักษ์ใหญ่ อี-คอมเมิร์ซ จีนแห่งนี้ ประกาศลดการคาดการณ์แนวโน้มยอดขายตลอดปีลง 4-6% ด้วยเหตุผลว่า เนื่องจากผู้บริโภคไม่แน่ใจในแนวโน้มเศรษฐกิจ สภาวการณ์เช่นนี้กดดันราคาหุ้นของบริษัทให้ดิ่งลงถึง 16% ในปีนี้ หลังจากเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าตัวเมื่อปีที่แล้ว
เพื่อเป็นการชดเชยรับมือ อาลีบาบาใช้วิธียอมตัดค่าคอมมิชชันจากแพลตฟอร์มเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อรักษาแบรนด์ต่างๆ ไว้ และดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ
ขณะเดียวกัน ปีนี้อัตราการเติบโตของยอดขายออนไลน์ตามเมืองใหญ่ๆ ทางภาคตะวันออกของจีน ได้ลดลงยกแผงเช่นเดียวกัน ในจำนวนนี้รวมถึงเซี่ยงไฮ้ และ ปักกิ่ง อาลีบาบายังพบว่า เกือบ 75% ของผู้ใช้ใหม่ในไตรมาสที่ผ่านมา อยู่ในพื้นที่ของจีนซึ่งมีการพัฒนาน้อยกว่า
สำหรับสินค้าที่ขายดิบขายดีนั้น ถึงแม้เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กและเครื่องสำอางทำยอดขายแข็งแกร่งในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ยอดขายสินค้าชิ้นใหญ่ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ และของตกแต่งบ้านกลับลดลงตามแนวโน้มขาลงของตลาดที่อยู่อาศัย
แต่ถึงอัตราการเติบโตแผ่วลง แต่บรรดาผู้บริหารอาลีบาบายังเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น โดย แดเนียล จาง ประธานบริหาร ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้ริเริ่มเทศกาลชอปปิ้งวันคนโสด ประกาศต่อหน้าผู้สื่อข่าวราว 800 คน ที่ร่วมชมการสตรีมสดมหกรรมชอปปิ้งที่เซี่ยงไฮ้ ว่า บริษัทจะเดินหน้าเพิ่มยอดขายเป็น 300,000-500,000 ล้านหยวน จากครั้งนี้ที่ทำได้ในระดับ 200,000 ล้านหยวน
เทศกาลชอปปิ้งวันคนโสดครั้งนี้ คาดว่า จะเป็นครั้งสุดท้ายภายใต้การบริหารของ แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ โดยนับจากปีหน้า จาง จะรับตำแหน่งประธานกรรมการแทน
สำหรับเทศกาลชอปปิ้งปีนี้ อาลีบาบา ร่วมกับผู้ผลิตสินค้า 180,000 แบรนด์ จากกว่า 200 ประเทศ และก่อนเที่ยงคืนวันอาทิตย์เล็กน้อย บริษัทจัดส่งสินค้าทั้งสิ้นกว่า 1,000 ล้านรายการ
อาลีบาบายังทำสถิติกวาดยอดขายทะลุหลัก 1,000 ล้านดอลลาร์ ภายใน 1 นาที 25 วินาที หลังเที่ยงคืนวันเสาร์ ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่รอคิวอยู่จำนวนมาก
เปโดร ยิป หุ้นส่วนของบริษัทที่ปรึกษา โอลิเวอร์ ไวแมน ชี้ว่า ยอดขายของอาลีบาบายังคงถูกแย่งชิงจากเทศกาลชอปปิ้งของคู่แข่ง เช่น “618” ของเจดีดอทคอมในเดือนมิถุนายน และว่า การที่มีมหกรรมลดราคาเกิดขึ้นปีละหลายครั้ง ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกว่า วันคนโสดเป็นโอกาสเดียวที่จะได้ซื้อสินค้าลดราคามโหฬารอีกต่อไป กระนั้น ต้องยอมรับว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงชื่นชอบชอปปิ้งวันคนโสดมากกว่า
สำหรับเจดีดอทคอมนั้น เผยว่า ทำสถิติยอดขายใหม่ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ 159,800 ล้านหยวน (23,000 ล้านดอลลาร์) หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 26%
