xs
xsm
sm
md
lg

ทรัมป์หงอย! กระแสคนชิงชังแผลงฤทธิ์ เดโมแครตคุมสภาล่างครั้งแรกรอบ 8 ปี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

แนนซี เปโลซี ผู้นำเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎร ขอบคุณสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคระหว่างงานฉลองชัยชนะในวอชิงตัน พร้อมบอกว่า สภาล่างจะมุ่งมั่นทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของทรัมป์
รอยเตอร์ – เดโมแครตโหนกระแสชิงชังทรัมป์ เข้าควบคุมสภาล่างเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีจากศึกเลือกตั้งกลางเทอมที่เป็นการลงประชามติรับรองความเป็นผู้นำของประมุขทำเนียบขาวกลายๆ ถึงกระนั้นรีพับลิกันก็ยังคงผูกขาดเสียงข้างมากในวุฒิสภาต่อไป

แม้ผลการนับคะแนนในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาและผู้ว่าการรัฐเมื่อวันอังคาร (6 พ.ย.) ยังไม่เสร็จสิ้น แต่มีแนวโน้มว่า พรรคเดโมแครตจะกวาดที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรเกิน 30 ที่นั่ง จากที่ต้องการเพียง 23 ที่นั่งเพื่อให้ได้ครองเสียงข้างมากในสภาล่างที่มีสมาชิก 435 คนเป็นครั้งแรกนับจากปี 2010

สภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ที่ควบคุมโดยเดโมแครตจะมีอำนาจในการตรวจสอบการคืนภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แนวโน้มความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ทางธุรกิจ และข้อกล่าวหาต่างๆ เกี่ยวกับความเชื่อมโยงของทีมหาเสียงของทรัมป์กับการแทรกแซงการเลือกตั้งอเมริกาของรัสเซีย

เหล่า ส.ส.เดโมแครตยังอาจบีบให้ทรัมป์ต้องยอมล่าถอยจากร่างกฎหมายบางฉบับ อาทิ การสร้างกำแพงตลอดแนวชายแดนติดกับเม็กซิโก หรือการผ่านมาตรการลดภาษีครั้งใหญ่รอบสอง หรือนโยบายการค้าแข็งกร้าว

การครองเสียงข้างมากในสภาล่างยังเปิดโอกาสสำหรับการยื่นถอดถอนทรัมป์ หากปรากฏหลักฐานว่า เขาขัดขวางกระบวนการยุติธรรมหรือทีมหาเสียงของทรัมป์สมรู้ร่วมคิดกับรัสเซียเมื่อสองปีที่แล้ว กระนั้น กระบวนการนี้ต้องได้รับการรับรองจากสมาชิก 2 ใน 3 ของวุฒิสภาที่รีพับลิกันกุมอำนาจอยู่

แนนซี เปโลซี ผู้นำเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎร ขอบคุณสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคระหว่างงานเลี้ยงฉลองชัยชนะในวอชิงตัน พร้อมบอกว่า สภาล่างจะมุ่งมั่นทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของทรัมป์

ขณะเดียวกัน แม้รีพับลิกันพ่ายแพ้ในสภาล่าง แต่ทรัมป์ทวิตว่า “คืนแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่” และประกาศว่า เปโลซี, มิตช์ แม็กคอนเนลล์ ผู้นำรีพับลิกันในสภาสูง, ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเดโมแครตในสภาสูง และสมาชิกรีพับลิกันอีกหลายคน ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชนะด้วยกันทั้งสิ้น

ระหว่างหาเสียงช่วงท้ายๆ ทรัมป์ อดีตพิธีกรเรียลลิตี้โชว์และนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์วัย 72 ปี ที่ผันตัวเป็นนักการเมือง เตือนเกี่ยวกับคาราวานผู้อพยพชาวละตินอเมริกาที่กำลังมุ่งหน้าข้ามพรมแดนจากเม็กซิโกเข้าสู่สหรัฐฯ และประณามม็อบเสรีนิยมอเมริกัน

ในทางกลับกัน ผู้สมัครพรรคเดโมแครตละเว้นการตอบโต้โวหารดุดันเผ็ดร้อนของทรัมป์ แต่มุ่งเน้นปัญหาปากท้องแทน เช่น การปกป้องการเกษียณอายุภายใต้โครงการประกันสังคม และโครงการประกันสุขภาพสำหรับผู้สูงวัย

ทั้งนี้ ในช่วงสองทศวรรษล่าสุด มีการเลือกตั้งเพียง 3 ครั้งที่พรรคใดพรรคหนึ่งได้ที่นั่งในสภาล่าง 24 ที่นั่งขึ้นไป สำหรับการเลือกตั้งในวันอังคารถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดนับจากปี 2010 ที่กลุ่มอนุรักษนิยมระบายความไม่พอใจที่มีต่อบารัค โอบามา ประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตในขณะนั้น ด้วยการเทคะแนนให้รีพับลิกันกวาดที่นั่งถึง 64 ที่นั่ง

การเลือกตั้งในวันอังคารเป็นการเลือกสมาชิกสภาล่างทั้งหมด 235 คน, สมาชิกสภาสูง 35 ที่นั่งจาก 100 ที่นั่ง และผู้ว่าการรัฐ 36 รัฐจาก 50 รัฐ

ชัยชนะของเดโมแครตมาจากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงหนุ่มสาว ผู้หญิง และผู้ที่มีเชื้อสายอเมริกากลางหรืออเมริกาใต้ ผลสำรวจในวันเลือกตั้งของรอยเตอร์/อิปซอสพบว่า ผู้หญิง 55% สนับสนุนผู้สมัครเดโมแครตในสภาล่าง เทียบกับ 49% ในการเลือกตั้งกลางเทอมปี 2014

หนุ่มสาวอายุ 18-34 ปีสนับสนุนเดโมแครต 62% ต่อ 34% ที่สนับสนุนรีพับลิกัน เพิ่มจาก 54% ต่อ 36% เมื่อสี่ปีที่แล้ว ขณะที่ผู้ที่มีเชื้อสายอเมริกากลางหรืออเมริกาใต้ 33% โปรดปรานผู้สมัครเดโมแครต จาก 18% ในปี 2014

ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้เดโมแครตได้ควบคุมสภาล่างตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับจากปี 2010 และเริ่มต้นการจัดการที่มีการแบ่งแยกอำนาจกันอย่างชัดเจนกับสภาสูงที่ควบคุมโดยรีพับลิกัน และนั่นอาจบีบให้ทรัมป์ต้องยอมวางมือจากร่างกฎหมายบางฉบับและหันมาโฟกัสประเด็นที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค เช่น การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และการป้องกันการขึ้นราคายาตามใบสั่งแพทย์

นอกจากนั้นยังเป็นการทดสอบความสามารถของทรัมป์ในการประนีประนอมที่ตลอดสองปีที่ผ่านมาเขาไม่สนใจเท่าใดนัก เนื่องจากรีพับลิกันครองเสียงข้างมากในทั้งสองสภา รวมทั้งทดสอบฐานเสียงของทรัมป์ในกลุ่ม ส.ส. รีพับลิกันที่ส่วนใหญ่จำยอมสนับสนุนประธานาธิบดีผู้นี้เพื่อเอาใจผู้สนับสนุนของตัวเอง

ด้วยสภาล่างและสภาสูงที่ควบคุมโดยต่างพรรค และประธานาธิบดีที่มีมุมมองเกี่ยวกับอำนาจฝ่ายบริหารกว้างขวางมาก จึงเป็นที่คาดว่า การแบ่งขั้วการเมืองในวอชิงตันจะยิ่งชัดเจนขึ้น ขณะที่รัฐสภามีแนวโน้มทำงานยากลำบากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น