xs
xsm
sm
md
lg

อิเหนาระบุ อุปกรณ์วัดความเร็วของ'โบอิ้ง'ที่ตกทะเล มีปัญหาใน 4 เที่ยวบินหลังสุดก่อนพบจุดจบ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

<i>ญาติๆ ของเหยื่อผู้เสียชีวิตในเที่ยวบิน เจที 610 ของสายการบินไลอ้อนแอร์ โปรยดอกไม้ลงไปในน้ำเมื่อวันอังคาร (6 พ.ย.) ขณะพวกเขาเดินทางด้วยเรือของกองทัพเรืออินโดนีเซีย ไปเยือนสถานที่เครื่องบินโบอิ้ง 737 แมกซ์ 8 ลำนี้ตกในทะเลชวา  </i>
รอยเตอร์/เอเอฟพี - คณะสอบสวนอุบัติเหตุของอินโดนีเซียแถลงว่า เครื่องวัดความเร็วเครื่องบินของ โบอิ้ง 737 แมกซ์ 8 ลำที่ตกในทะเลชวาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อยู่ในสภาพมีปัญหาในทั้งเที่ยวบิน 4 เที่ยวหลังสุด อย่างไรก็ดี พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของสหรัฐฯยังไม่เห็นว่าจะต้องรีบตรวจสอบเครื่องบินรุ่นนี้ทั้งหมด

ความเสียหายของเครื่องบินสายการบินไลอ้อนแอร์ลำดังกล่าว ซึ่งตกลงในทะเลใกล้ๆ ชายฝั่งทำให้ผู้ที่อยู่บนเครื่อง 189 คนเสียชีวิตยกลำ ได้รับการเปิดเผยเพิ่มมากขึ้น ภายหลังข้อมูลถูกดาวน์โหลดออกมาจากส่วนของ “กล่องดำ” ที่เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลเที่ยวบินของเครื่องบินลำนี้ โซร์ยันโต จาห์โยโน ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของอินโดนีเซีย (NTSC) กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ (5 พ.ย.)

ก่อนหน้านี้ ไลอ้อนแอร์ซึ่งถูกจับตามองในเรื่องปัญหาด้านความปลอดภัยมานาน แถลงว่า โบอิง 737 แมกซ์ 8 ลำนี้มีปัญหาทางเทคนิค ในเที่ยวบินก่อนหน้าเที่ยวซึ่งตกในวันจันทร์ที่ 29 ต.ค. แต่ได้มีการแก้ไขข้อขัดข้องดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว

ทว่า NTSC แถลงในวันที่ 4 พ.ย. ว่า ข้อมูลจากกล่องดำที่พบแสดงให้เห็นว่า เครื่องบินลำนี้มีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องวัดความเร็วเครื่องบิน อย่างน้อยที่สุดก็ในเที่ยวบินอื่นๆ ก่อนหน้านี้ 2 เที่ยวบิน ขณะที่จาห์โยโนพูดอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นว่า เที่ยวบินก่อนหน้านี้ 4 เที่ยวบินล้วนแต่ประสบปัญหากับอุปกรณ์ดังกล่าว

“เมื่อเกิดมีปัญหาขึ้นมา นักบินจะเขียนปัญหาลงไป และฝ่ายช่างก็จะทำการซ่อม … จากนั้นจะมีการประกาศว่าเครื่องบินได้มาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการบิน”

ตอนนี้สิ่งที่ NTSC จะต้องทำต่อไปก็คือ ตรวจหาสาเหตุที่เครื่องวัดความเร็วเครื่องบินเกิดปัญหา และมีการซ่อมแซมอย่างถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ เป็นต้นว่า การเปลี่ยนชิ้นส่วนที่บกพร่องหรือไม่อย่างไร

ทั้งนี้ NTSC ไม่ได้ให้รายละเอียดมากไปกว่านี้ รวมทั้งไม่ได้คาดเดาว่าอุปกรณ์วัดความเร็วที่มีปัญหา น่าจะมีบทบาททำให้เครื่องบินตกหรือไม่ โดยที่ยังจะต้องดำเนินการตรวจสอบกันต่อไปอีก

ทางด้านรัฐมนตรีขนส่ง บูดี คารยา สุมาดี บอกกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (5) เช่นกันว่า จะดำเนินการตรวจสอบเป็นพิเศษในเรื่องคุณสมบัติของพวกลูกเรือตลอดจนคุณภาพในการสื่อสารของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยถือเป็นมาตรการป้องกันไว้ก่อน
<i>การค้นหาซากเที่ยวบิน เจที 610 ของสายการบินไลอ้อนแอร์ ในทะเลชวา ยังคงดำเนินอยู่เมื่อวันอังคาร (6 พ.ย.) </i>
ขณะที่ จาห์โยโน ประธานของ NTSC กล่าวอีกว่า หน่วยงานของเขากำลังสอบถามบริษัทโบอิ้งและหน่วยงานรับผิดชอบของสหรัฐฯว่า จะดำเนินการอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทำนองเดียวกันนี้กับเครื่องบินรุ่นเดียวกันนี้ในทั่วโลก

“เรากำลังจัดทำวิธีการในการตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องวัดความเร็วเครื่องบินอย่างละเอียด โดยร่วมมือกับ NTSB และโบอิ้ง” เขากล่าว โดยที่ NTSB หมายถึง คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ

สำหรับ แดน เอลเวลล์ รักษาการผู้บริหารของสำนักงานบริหารการบินสหรัฐฯ (FAA) แถลงที่กรุงวอชิงตันว่า FAA และ NTSB ได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปอยู่ในอินโดนีเซียแล้วตามคำร้องขอของรัฐบาลประเทศนั้น

แต่ “การปฏิบัติการใดๆ ของ FAA เกี่ยวกับเหตุการณ์คราวนี้ จะยังต้องรอไปก่อนจนกว่าเราจะตรวจสอบมองเห็นข้อมูลต่างๆ จนกว่าเราจะมีข้อมูลข่าวสาร” เอลเวลล์ บอก

ขณะที่บุคคลซึ่งคุ้นเคยกับเรื่องนี้ผู้หนึ่ง กล่าวกับรอยเตอร์โดยขอให้สงวนนามว่า อินโดนีเซียยังไม่ได้ร้องขออย่างเป็นทางการเพื่อให้ตรวจสอบเครื่องบิน 737 แมกซ์ ทุกๆ ลำ รวมทั้ง FAA ก็ยังไม่มีแผนการจะทำเรื่องนี้ โดยต้องรอให้ได้ข้อมูลมากกว่านี้

FAA ซึ่งมีหน้าที่กำกับตรวจสอบอุตสาหกรรมการบินของสหรัฐฯ ไม่เคยได้รับรายงานใดๆ ว่ามีเครื่องบินโบอิ้งรุ่นนี้ที่ใช้งานอยู่ในสหรัฐฯ ประสบปัญหาเกี่ยวกับเครื่องวัดความเร็วเครื่องบิน ทั้งนี้ตามปากคำของบุคคลผู้หนึ่งซึ่งคุ้นเคยกับเรื่องการตรวจสอบนี้ และขอให้สงวนนามเนื่องจากไม่ได้รับมอบอำนาจให้พูดเรื่องนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น