ฟ็อกซ์นิวส์ - ลูกเรือรายหนึ่งของสายการบินเอมิเรตส์ ให้การปฏิเสธระหว่างถูกนำตัวขึ้นศาลเมื่อวันพุธ(17ต.ค.)ที่ผ่านมา หลังโดนกล่าวหาขโมยเงิน 18,500 ดีแรห์ม(ประมาณ 160,000บาท) จาก 3 พี่น้องในชั้นบิสซิเนสคลาส บนเที่ยวบินจากกรุงเทพฯมุ่งหน้าสู่ดูไบเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
เว็บไซต์กัลฟ์นิวส์รายงานโดยอ้างบันทึกของศาล ระบุว่าชายทั้ง 3 คนทิ้งข้าวของไว้โดยไม่มีคนเฝ้า เนื่องจากรุดไปดูอาการผู้เป็นบิดาที่ล้มป่วยระหว่างเที่ยวบิน
หลังกลับมายังที่นั่ง 3 พี่น้องสังเกตเห็นว่าเงินนั้นหายไป จึงแจ้งหัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและจากนั้นตำรวจได้ลงมือสืบสวน
"เราทั้ง 3 คนได้ดูอาการป่วยของพ่อ แต่พอเรากลับมาที่นั่ง ผมพบว่าเงินหายไปจากกระเป๋าสตางค์ของผม 3,700 ดีแรห์ม ส่วนพี่น้องของผมพบว่าเงินหายไปจากกระเป๋าสตางค์ทั้งในรูปแบบดอลลาร์และดีแรมห์ม รวม 14,800 ดีแรห์ม" หนึ่งใน 3 พี่น้องให้ปากคำกับอัยการ
"เราแจ้งไปยังหัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องได้พาเราไปยังห้องครัวชั้นบิสซิเนส และถ่ายภาพเงินที่ยังเหลืออยู่ในกระเป๋าสตางค์ของเรา พวกมันมีเลขธนบัตรเรียงต่อๆกันกับธนบัตรที่ถูกขโมยไป" เขากล่าว "เมื่อเครื่องบินลงจอด ตำรวจนำข้าวของของเราไปตรวจหาลายนิ้วมือ พวกเขาค้นเครื่องบิน แต่ไม่เจอเงิน" หนึ่งใน 3 พี่น้องระบุ
เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาขโมยกับพนักงานต้อนรับบนเที่ยวบินชาวอียิปต์วัย 37 ปีรายหนึ่ง หลังลายนิ้วมือของเขาตรงกับลายนิ้วมือของหัวขโมยที่พบบนกระเป๋าสตางค์ อย่างไรก็ตามระหว่างขึ้นศาลดูไบนัดแรกเมื่อวันพุธ(17ต.ค.) เขาให้การปฏิเสธ แม้ในข้อเท็จจริงคือตำรวจนายหนึ่งระบุว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ให้การยอมรับสารภาพในชั้นสืบสวน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น 1 ปีหลังจากสามีภรรยานิวซีแลนด์คู่หนึ่งถูกขโมยเงิน 2,674 ยูโร ไปจากกระเป๋าถือในชั้นเฟิร์สคลาสบนเที่ยวบินจากปารีสสู่ดูไบของสายการบินเอมิเรตส์ และเมื่อเดือนที่แล้ว ผู้โดยสารของสายการบินไรอันแอร์รายหนึ่ง ได้บันทึกภาพวิดีโอเหตุการณ์ขณะที่พนักงานขนถ่ายสัมภาระกำลังขโมยลำโพงจากกระเป๋าสัมภาระใบหนึ่ง