ระทึก! ตอลิบานบุกยิงบิ๊กตร.อัฟกันดับที่กันดาฮาร์-ผบ.ทัพสหรัฐฯ รอดหวุดหวิด

รอยเตอร์ - พล.ต.อ. อับดุล ราเซก หนึ่งในผู้บัญชาการฝ่ายความมั่นคงที่ทรงอิทธิพลที่สุดของอัฟกานิสถาน ถูกนักรบตอลิบานซึ่งปลอมตัวเข้ามาอยู่ในทีมอารักขายิงเสียชีวิต สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อรัฐบาลคาบูลก่อนจะถึงศึกเลือกตั้งรัฐสภาในวันเสาร์นี้ (20 ต.ค.)

เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยอมรับว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าการเสียชีวิตของ พล.ต.อ. อับดุล ราเซก ซึ่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจประจำจังหวัดกันดาฮาร์ จะทำให้ประชาชนหวาดผวาและออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อยหรือไม่ แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อภารกิจของกองทัพสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน

“เราต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นผู้กระทำ” แมตทิส ให้สัมภาษณ์กับสื่อที่รวมเดินทางไปยังสิงคโปร์ “แต่ตอนนี้เราต้องมุ่งไปที่การเลือกตั้ง และเราจะยังคงปกป้องพลเมืองอัฟกันให้ปลอดภัย”

ราเซก ซึ่งรอดจากความพยายามลอบสังหารมาแล้วหลายครั้ง ถูกปลิดชีพที่หน้าสำนักงานในจังหวัดกันดาฮาร์เมื่อวานนี้ (18) หลังจากบอดี้การ์ดคนหนึ่งชักปืนออกมายิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ซึ่งเดินออกจากห้องประชุม

พล.อ. สก็อตต์ มิลเลอร์ ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯ และนาโตซึ่งเข้าร่วมประชุมด้วยในวันนั้นไม่ได้รับอันตราย แต่มีผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองระดับภูมิภาคคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิต และผู้ว่าการจังหวัดกันดาฮาร์บาดเจ็บสาหัส

เหตุโจมตีที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ความมั่นคงในอัฟกานิสถานยังคงล่อแหลม แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และตอลิบานจะมีการติดต่อพูดคุยในเบื้องต้นเพื่อวางรากฐานสำหรับการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 17 ปีก็ตาม

แมตทิส ยอมรับว่ายังไม่ได้พุดคุยกับ มิลเลอร์ และไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นฝีมือตอลิบานตามที่ทางกลุ่มออกมากล่าวอ้างหรือไม่

แม้เหตุโจมตีในช่วงก่อนการเลือกตั้งจะเป็นสิ่งที่ฝ่ายความมั่นคงคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว แต่การตายของ ราเซก ก็ยังสร้างความอกสั่นขวัญแขวน และอาจทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งไม่กล้าออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันเสาร์นี้ (20)

ตอลิบานเคยออกมาขู่ไม่ให้ชาวอัฟกันไปลงคะแนนในศึกเลือกตั้ง ซึ่งพวกเขามองว่าจัดขึ้นภายใต้อิทธิพลต่างชาติ

ราเซก วัย 39 ปี เป็นพลตำรวจหนุ่มอายุน้อยที่มีอิทธิพลสูงสุดในกลุ่มจังหวัดตอนใต้ของอัฟกานิสถาน

ปีที่แล้ว คณะกรรมการต่อต้านการทรมานของสหประชาชาติอ้าง “ข้อกล่าวหาที่น่าเชื่อถือหลายกรณี” ว่า ราเซก มีส่วนพัวพันกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ทั้งการวิสามัญฆาตกรรม (extrajudicial killing) และการจับกุมผู้ต้องสงสัยไปคุมขังไว้ในคุกลับหลายแห่ง

อย่างไรก็ตาม นายตำรวจหนุ่มผู้นี้ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงในจังหวัดกันดาฮาร์และพื้นที่โดยรอบ และมีความเชี่ยวชาญเรื่องการเมืองระหว่างชนเผ่าต่างๆ แม้แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เองก็ยังนับถือสไตล์การทำงานอันดุดันของเขาว่าเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการกำราบพวกตอลิบาน