เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงค้นหาผู้รอดชีวิตกันต่อในวันศุกร์ (12 ต.ค.) หลังจากหนึ่งในพายุเฮอริเคนที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกาได้พัดถล่มฟลอริดาและทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย
เฮอริเคนไมเคิลได้พัดถล่มชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของฟลอริดา เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ผ่านมา ด้วยความเร็วลมหมุนใกล้ศูนย์กลาง 155 ไมล์ต่อชั่วโมง
อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รัฐ พบว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 รายในฟลอริดา จอร์เจีย นอร์ธแคโรไลนา และเวอร์จิเนีย
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่า ในช่วงรุ่งสางวันศุกร์ พายุลูกนี้อยู่ห่างจากเมืองนอร์โฟล์คของรัฐเวอร์จิเนียไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 65 ไมล์ โดยที่ความเร็วลมหมุนใกล้ศูนย์กลางนั้นอ่อนกำลังลงมาอยู่ที่ 60 ไมล์ต่อชั่วโมง
พายุลูกนี้ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน รวมถึงความเสียหายจากแรงลม ในหลายพื้นที่ของนอร์ทแคโรไลนา และทางตอนใต้ของมิดแอตแลนติก ซึ่งยังบอบช้ำจากเฮอริเคนฟลอเรนซ์เมื่อเดือนก่อน
ทหารของกองทัพสหรัฐฯ ต้องใช้อุปกรณ์ขนาดใหญ่ในการผลักดันซากปรักหักพังเพื่อเปิดทางให้หน่วยกู้ภัยได้เข้าไปค้นหาชาวบ้าน ผู้รอดชีวิต หรือร่างของผู้เสียชีวิตที่ติดค้างอยู่ในซากเหล่านั้น
บ้านและสำนักงานธุรกิจเกือบ 1.1 ล้านหลัง ตั้งแต่ฟลอริดาไปจนถึงเวอร์จิเนีย ไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงรุ่งสางวันศุกร์ (12 ต.ค.)
กาชาดอเมริกันระบุว่า จำนวนคนที่ต้องไปอาศัยในที่หลบภัยฉุกเฉินนั้นคาดว่าจะมากถึง 20,000 รายใน 5 รัฐ
นักอุตุนิยมวิทยาจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ระบุว่า เฮอริเคนไมเคิลได้สร้างความเสียหายแก่ผลผลิตทางการเกษตรมากมาย มูลค่าความเสียหายน่าจะสูงถึง 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรมากถึง 3.7 ล้านเอเคอร์