เอเจนซีส์ – โรซานนา บาลเด็ตติ(Roxana Baldetti) อดีตรองประธานาธิบดีกัวเตมาลา ถูกตัดสินว่ากระทำความผิดในเรื่องการฉ้อโกงเกี่ยวข้องกับโครงการทำความสะอาดทะเลสาบปนเปื้อนมลพิษมูลค่าหลายล้านดอลลาร์แต่ใช้แค่ “เกลือ” และ “สารคลอรีน” ที่พบว่ามีบริษัทที่มีฐานในอิสราเอลเข้าเกี่ยวข้อง
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(9 ต.ค)ว่า ในการสืบสวนที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การต่อต้านอาชญากรรมของสหประชาชาติ อดีตรองประธานาธิบดีกัวเตมาลา โรซานา บาลเด็ตติ(Roxana Baldetti) ต้องรับโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 15 ปีในคดีคอร์รัปชันโครงการทำความสะอาดทะเลสาบปนเปื้อนมลพิษที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์
โดยอัยการกัวเตมาลาที่มีหน่วยงานคณะกรรมการระหว่างประเทศต่อต้านการงดเว้นโทษในกัวเตมาลา Cicig (International Commission against Impunity in Guatemala)ให้การช่วยเหลือ ได้ออกมาเปิดเผยเครือข่ายอาชญากรรมของบาลเด็ตติ ซึ่งเกี่ยวข้องการให้สัญญาว่าจ้างมูลค่า 18 ล้านดอลลาร์ในโครงการทำความสะอาดทะเลสาบมลพิษของรัฐบาลกัวเตมาลาแก่บริษัทสัญชาติอิสราเอล ที่ใช้เพียงเกลือและสารคลอรีนในการทำความสะอาด
การออกมาประกาศคำตัดสินวันอังคาร(9) สร้างความดีใจให้กับฝ่ายต่อต้านการงดเว้นโทษที่อยู่ในระหว่างการต่อสู้เพื่อที่จะรักษา Cicig ไม่ให้ถูกประธานาธิบดีกัวเตมาลาคนปัจจุบันสั่งยุบ ซึ่งในเวลานี้ผู้นำกัวเตมาลาอยู่ในระหว่างการต่อสู้จากการถูกถอดถอนสาเหตุจากโครงการฉ้อฉลหลายล้านดอลลาร์
โดยประธานาธิบดี จิมมี โมราเลส ออกมาโต้ว่า การตัดสินใจของเขาที่สั่งให้หน่วยงาน Cicig สิ้นสภาพในเดือนกันยายนปีหน้าไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และได้ใช้เวทีการขึ้นกล่าวแถลงการณ์กลางที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติในเดือนที่ผ่านมา อ้างว่า “Cicig ถือเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพ”
ซึ่งก่อนหน้านี้พบว่า เขาได้ออกคำสั่งห้ามประธานคณะกรรมการ Cicig อีวาน เวลาสเกซ(Iván Velásquez) กลับเข้าประเทศ
ทั้งนี้พบว่า บาลเด็ตติวัย 56 ปีถือเป็นถือเป็นนักการเมืองระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีมาถูกตัดสินลงโทษ โดยศาลอาญาระดับสูง (High Risk Court) ในเมืองกัวเตมาลา ซิตีสั่งจำคุกเป็นเวลา 15 ปี 6 เดือน หลังผู้พิพากษาชี้ว่า อดีตรองประธานาธิบดีกัวเตมาลารายนี้เป็นหัวหน้าใหญ่ในขบวนการทุจริต และพบว่าเธอมีความผิดในข้อหาฉ้อโกง การสมรู้ร่วมคิดอย่างผิดกฎหมาย และการใช้อิทธิพล
ซึ่งทางอัยการกัวเตมาลาชี้ว่า บาลเด็ตติแอบสมรู้ร่วมคิดเพื่ออนุญาตสัญญาว่าจ้างมูลค่า 18 ล้านดอลลาร์ให้แก่บริษัทเอ็ม ทาร์ซิค เอ็นจิเนียริง ลิมิเต็ด( M Tarcic Engineering Ltd) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในอิสราเอล หลังจากบริษัทแห่งนี้ออกมาอ้างว่า สามารถทำความสะอาดทะเลสาบอมาติตลาน( Lake Amatitlán) แหล่งพักผ่อนของผู้มีอันจะกินในกัวเตมาลาได้ โดยชี้ว่าทะเลสาบมีการปนเปื้อนน้ำเสียจากเมืองหลวงกัวเตมาลาจำนวนมาก
ซึ่งทางบริษัทเอ็ม ทาร์ซิค เอ็นจิเนียริง ลิมิเต็ดอ้างว่า สามารถเสร็จสิ้นกระบวนการแก้ไขได้ภายในไม่กี่เดือน แต่ทางอัยการกัวเตมาลาชี้ว่า กลับค้นพบว่าสารเคมีที่ทางบริษัทใช้คือ “เกลือ” และ “สารคลอรีน” เท่านั้น
นอกจากอดีตรองประธานาธิบดีกัวเตมาลาถูกสั่งจำคุกแล้ว พบว่ามีอีก 9 คนถูกตัดสินโทษจำคุกเช่นกัน รวมไปถึง มาริโอ(Mario) น้องชายของบาลเด็ตติที่ทำตัวเสมือนตัวกลางระหว่างบริษัทยิวและรัฐบาลกัวเตมาลา
สื่ออังกฤษรายงานว่า บาลเด็ตติยังมีข้อหาลักลอบขนโคเคนในสหรัฐฯแต่ทว่าเธอยังไม่สามารถถูกส่งไปอเมริกาเพื่อรับโทษในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนได้จนกว่าเธอจะได้รับโทษในเรือนจำในกัวเตมาลาเสร็จสิ้นก่อน
