เอเจนซีส์ – ในขณะที่กำหนดเวลา BREXIT กำลังใกล้เข้ามาแต่ข้อตกลงในการเจรจากลับไร้ความก้าวหน้า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ ปฎิเสธความเป็นไปได้ถึงการจัดการลงประชามติ BREXIT รอบ 2 พร้อมกระตุ้นให้ทางอียูหันมาประนีประนอมเพื่อให้การเจรจาการแยกตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษคืบหน้าขึ้น
DW สื่อเยอรมันรายงานวันนี้(20 ก.ย)ว่า บรรดาผู้นำชาติยุโรปต่างรวมตัวกันในเมืองซาลซ์บวร์ก(Salzburg) ออสเตรีย วันพฤหัสบดี(20) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการหารืออย่างไม่เป็นทางการ
ซึ่งหนึ่งในประเด็น คือข้อขัดแย้งในการเจรจา BREXIT และการตกลงขั้นสุดท้ายสมควรที่ต้องคืบหน้าในเดือนตุลาคม ในขณะที่ประเด็นการอพยพถือเป็นประเด็นนโยบายสำคัญสำหรับนายกรัฐมนตรีออสเตรียเซบาสเตียน คูร์ซ (Sebastian Kurz) ที่ในเวลานี้เขานั่งเป็นประธานยุโรป ซึ่งเป็นตำแหน่งหมุนเวียน
และคาดว่าปัญหาความมั่นคงภายในยูโรโซนจะถูกหยิบยกในการหารือเช่นกัน สื่อเยอรมันชี้
ในวันพุธ(19)นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ ได้กล่าวต่อหน้าบรรดาชาติผู้นำยุโรปทั้งหลายว่า อังกฤษได้วางข้อเสนอที่จริงจังและเป็นไปได้สำหรับ BREXIT และในเวลานี้ จึงต้องขึ้นอยู่กับทางสหภาพยุโรปในการที่จะต้องตอบสนองในทางเดียวกันเพื่อทำให้มีความก้าวหน้าขึ้นมาในฝั่งยุโรป
ด้านประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ฌอง-โคลด ยุงเกอร์ แสดงความเห็นว่า ข้อตกลงกับอังกฤษในเรื่อง BREXIT ยังคงห่างไกล ในขณะที่ประธานรับสภายุโรป โดนัลด์ ทัสค์ ชี้ว่า ถึงแม้จะมีความคืบหน้าในบางส่วนในปัญหาพรมแดนไอร์แลนด์และความสัมพันธ์ทางการค้าหลัง BREXIT แต่ยังคงยืนกรานว่า ทางฝ่ายอังกฤษยังต้องนำข้อเสนอกลับไปแก้ไขใหม่
ซึ่งการประชุมใหญ่ที่ถูกวางแผนล่วงหน้าในกรุงบรัสเซลส์สำหรับวันที่ 18 ต.ค ที่จะถึงถูกมองว่าเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับข้อตกลงสำหรับ BREXIT ที่ตามกำหนดจะต้องมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย ปีหน้า ในขณะที่ทุกฝ่ายตามทฤษฎีจะยังคงสามารถลงนามข้อตกลงได้หลังเดือนตุลาคม ซึ่งพบว่าได้มีการตกลงที่จะมีการประชุมพิเศษในเดือนพฤศจิกายนปลายปีนี้
และต้องมีการใช้เวลาในการรับรองของทั้งสองฝ่ายโดยสมาชิกรับสภายุโรป รัฐสภาของทุกชาติสมาชิก และรัฐสภาอังกฤษ
และนอกจากนี้ เมย์ได้กล่าวยืนยันต่อบรรดาผู้นำยุโรปถึงข่าวลือภายในรัฐบาลของเธอถึงความน่าจะเป็นในการลงมติ BREXIT เป็นครั้งที่ 2 ว่า “จะไม่เกิดขึ้น และไม่อยู่ในทางเลือกของอังกฤษ” และเมย์ยังยืนยัน “ไม่ยอมรับ” ในการหลักการข้อเสนอจากยุโรปที่ต้องการให้ “ไอร์แลนด์เหนือ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษ ยังคงใช้สิทธิอัตราศุลกากรเดียวของยุโรปต่อไประหว่างการเจรจาความสัมพันธ์ทางการค้าหลัง BREXIT ยังไม่สิ้นสุด
นอกจากนี้ในปัญหาการอพยพเข้ายุโรป ผู้นำชาติต่างๆอยู่ตกภายใต้ความกดดันในการหาข้อตกลงร่วม หลังจากการประชุมร่วมในเดือนมิถุนายนสามารถทำให้เกิดข้อตกลงและมีรายละเอียดตามมา
ซึ่งในขณะที่ประเทศสมาชิกส่วนใหญ่เห็นด้วยในการทำให้หน่วยงานควบคุมพรมแดนยุโรป FRONTEX นั้นมีความแข็งแกร่งมากขึ้น แต่พบว่าบรรดาผู้นำยังคงไม่สามารถหาข้อยุติได้ในประเด็นเดิมเกี่ยวข้องกับโควตาการรับผู้อพยพ โดยประเทศหัวหอกเช่น โปแลนด์ สาธารณรัฐเชก และฮังการี ไม่ต้องการเปลี่ยนจุดยืนแข็งกร้าวด้านการเข้าเมืองของตัวเอง
และนอกจากนี้ยังมีความเห็นแตกแยกภายในชาติสมาชิกสำหรับการพึ่งพาบรรดาชาติแอฟริกาเหนือในการช่วยสะกัดการเดินทางออกนอกทวีปของบรรดากลุ่มผู้อพยพถึงแม้จะมีการกล่าวแสดงความชื่นชม -อียิปต์ -ในเรื่องนี้ก็ตาม
ซึ่งทัสค์ได้แสดงความไม่พอใจที่บรรดาชาติสมาชิกต่างเล่นเกมส์กล่าวโทษกันไปมา พร้อมกับกระตุ้นให้บรรดาสมาชิกยุโรปหันหน้าเข้าหากันเพื่อหาทางออกร่วม
