xs
xsm
sm
md
lg

จีนย้ำไม่ลดหยวนกระตุ้นส่งออก ชี้เป็นอันตรายมากกว่าเกิดประโยชน์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ – นายกรัฐมนตรีจีนระบุไม่คิดใช้เงินหยวนเป็นเครื่องมือกระตุ้นการส่งออก ย้ำควรสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี แม้จะงดพาดพิงถึงสงครามการค้ากับสหรัฐฯ แต่สำทับว่า การดำเนินการฝ่ายเดียวไม่ช่วยแก้ปัญหาใดๆ

ระหว่างปราศรัยในงานเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัมที่เมืองเทียนจินเมื่อวันพุธ (19) นายกรัฐมนตรีหลี่ เคอะเฉียงของจีน ไม่ได้เอ่ยถึงข้อพิพาททางการค้าโดยตรง แต่กล่าวว่า เรื่องที่พูดกันว่า ปักกิ่งจงใจทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนลงนั้นเป็นแค่ข่าวโคมลอย พร้อมย้ำว่า แนวทางดังกล่าวจะเป็นอันตรายมากกว่าเกิดประโยชน์ และจีนจะไม่พึ่งพิงการอ่อนค่าของเงินหยวนเพื่อกระตุ้นการส่งออกเด็ดขาด

หลี่เสริมว่า ระบบการค้าพหุภาคีของโลกควรได้รับการสนับสนุนต่อไป ขณะที่การดำเนินการทางการค้าฝ่ายเดียวไม่ช่วยแก้ปัญหาใดๆ

การประกาศจุดยืนของผู้นำจีนหนุนให้ค่าเงินหยวนกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย หลังจากอ่อนลงราว 9% นับจากช่วงกลางเดือนเมษายนท่ามกลางบรรยากาศสงครามการค้า

ทั้งนี้ เมื่อวันอังคาร (18) ปักกิ่งเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าอเมริกันเพิ่มอีก 60,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้แผนการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการรีดภาษีสินค้าจีน 200,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 24 นี้

ขณะเดียวกัน จีนยังไม่ได้ตอบรับคำเชิญของสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในการเจรจาการค้ารอบใหม่ และในวันพุธ เกง ฉวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศ ยังแถลงว่า ไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับคณะผู้แทนการค้า รวมทั้งยังตั้งคำถามถึงความจริงใจของอเมริกาในการเจรจารอบใหม่ โดยตั้งข้อสังเกตว่า การเจรจารอบล่าสุดตามมาด้วยการบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรครั้งใหม่ ซึ่งกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของวอชิงตันไปแล้ว

จนถึงขณะนี้ อเมริกาเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าจีนรวมมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อกดดันให้ปักกิ่งเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติทางการค้า ยุติการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยีและการอุดหนุนอุตสาหกรรมไฮเทคท้องถิ่น ขณะที่ปักกิ่งตอบโต้ด้วยมาตรการเดียวกันในมูลค่าเท่ากัน

สำหรับมาตรการภาษีครั้งใหม่ของอเมริกาจะเริ่มจากระดับ 10% จนถึงสิ้นปีนี้ก่อนเพิ่มเป็น 25% โดยแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์คาดว่า จะส่งผลให้การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนในปีหน้าชะลอลง 0.5% อยู่ที่ 6.1%

ทว่า ออกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิกส์คาดว่า จีดีพีแดนมังกรในปี 2019 จะต่ำกว่า 6% รวมทั้งมีแนวโน้มน้อยมากที่ความตึงเครียดระหว่างจีนและอเมริกาจะผ่อนคลายลงในระยะสั้น แต่คงต้องรอจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบหนักขึ้นและทีมงานทรัมป์กระตือรือร้นในการทำสงครามการค้าน้อยลง ขณะที่จีนตระหนักว่า ถ้าไม่ยอมอ่อนข้อบ้างในเรื่องแบบแผนเศรษฐกิจคงยากที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในระบบเศรษฐกิจโลกได้

นักลงทุนต่างผ่อนคลายที่จีนตอบโต้อเมริกาไม่หนักหน่วงอย่างที่คาดกัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียขยับขึ้นในวันพุธ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรคลังสหรัฐฯ เคลื่อนไหวใกล้สถิติสูงสุดในรอบ 4 เดือน

ขณะเดียวกัน เมื่อวันพุธ บทบรรณาธิการในหนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนฉบับที่เผยแพร่นอกประเทศระบุว่า จีนไม่กลัวว่า มาตรการสุดโต่งของอเมริกาจะทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ภายในประเทศสูงเกินไป แต่จะใช้โอกาสนี้ส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศหรือพัฒนาการผลิตขั้นสูงเพื่อการส่งออก

โกลบัล ไทมส์ แท็บลอยด์ในเครือพีเพิลส์ เดลี่ สำทับว่า สงครามการค้าเป็นโอกาสในการทำให้ตลาดการเงินจีนเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก และจีนอาจเปิดตลาดหุ้นให้บริษัทตะวันตกเข้าไปจดทะเบียนมากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น