เอเอฟพี – สหภาพยุโรป ระบุในวันนี้ (6) ว่า พวกเขาเสียใจอย่างยิ่งกับการที่สหรัฐฯกลับมาใช้การคว่ำบาตรกับอิหร่านอีกครั้ง หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 และประกาศว่าจออกมาตรการปกป้องบริษัทยุโรปในทันที
ถ้อยแถลงจากผู้แทนระดับสูงของอียู เฟเดริกา โมเกรินี และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ระบุว่า พวกเขาก็จะพยายามเปิดช่องทางทางการเงินกับอิหร่านต่อไปด้วย
“เราเสียใจอย่างยิ่งกับการที่สหรัฐฯบังคับใช้การคว่ำบาตรอีกรั้ง เนื่องจากการถอนตัวจากข้อตกลงร่วมว่าด้วยแผนปฏิบัติการครอบคลุม” ถ้อยแถลงที่ออกในบรัสเซลส์ ระบุ
อียู ระบุว่า พวกเขาจะให้ความคุ้มครองทางกฎหมายกับบริษัทในกลุ่มประเทศอียูที่ร่วมงานกับอิหร่าน หลังจากรัฐบาลทรัมป์ปฏิเสธคำร้องขอการยกเว้นจากยุโรป
“เราต้องการปกป้องผู้ประกอบการในยุโรปที่ดำเนินธุรกิจถูกกฎหมายกับอิหร่าน” ถ้อยแถลง ระบุเสริม
“นี่คือเหตุผลที่กฎการขัดขวางฉบับแก้ไขของสหภาพยุโรปจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 สิงหาคมเพื่อปกป้องบริษัทอียูที่ดำเนินธุรกิจถูกกฎหมายกับอิหร่านจากผลกระทบของการคว่ำบาตรนอกอาณาเขตของสหรัฐฯ”
กฎการขัดขวางห้ามไม่ให้บริษัทอียูปฏิบัติตามการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และเปิดทางให้บริษัทเหล่านี้สามารถฟื้นฟูความเสียหายจากบทลงโทษต่างๆ และทำให้คำตัดสินของศาลต่างชาติต่อพวกเขาเป็นโมฆะ
ผู้ผลิตยานยนต์ เรโนลต์ ซึ่งไม่ได้ขายรถยนต์ในสหรัฐฯ ระบุว่า พวกเขาจะอยู่ในอิหร่านต่อไปถึงแม้ว่ามีการคว่ำบาตร แต่กลุ่มบริษัทน้ำมันฝรั่งเศส โททัล และผู้ผลิตยานยนต์ พีเอสเอ ประกาศแล้วว่า พวกเขาน่าจะถอนตัวออกจากอิหร่าน
ถึงแม้ว่าสหรัฐฯจะกลับมาบังคับใช้การคว่ำบาตรซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ไมค์ พอมพิโอ ยืนยันในอลาสกาเมื่อคืนวานนี้ (6) แต่อียูระบุว่า พวกเขาจะยังคงทำงานร่วมกับอิหร่านเพื่อรักษาข้อตกลงนี้ต่อไป
“กลุ่มที่เหลืออยู่ในข้อตกลงมีหน้าที่ที่จะต้องสงวนและรักษาช่องทางการเงินกับอิหร่าน และความต่อเนื่องในการส่งออกน้ำมันและก๊าซของอิหร่าน” อียู ระบุ