สหรัฐฯ จัดพิธีรับ ‘กระดูกทหารอเมริกัน’ จากเกาหลีเหนือกลับสู่บ้านเกิด

รอยเตอร์ - สหรัฐฯ จัดพิธีรับมอบกระดูกทหารอเมริกันที่เสียชีวิตในสงครามเกาหลีช่วงปี 1950-53 กลับสู่บ้านเกิดแล้วเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) พร้อมกล่าวขอบคุณรัฐบาลเกาหลีเหนือที่ส่งคืนกระดูกทหารตามที่ให้สัญญาไว้ในการประชุมซัมมิตเมื่อเดือน มิ.ย.

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายโสมแดงได้ติดแท็กชื่อทหารอเมริกันเอาไว้บนกล่องเพียงใบเดียวเท่านั้น ทำให้กองทัพสหรัฐฯ ยังต้องเผชิญงานหนักในการตรวจพิสูจน์และระบุชื่อเจ้าของกระดูกในกล่องทั้ง 55 ใบที่ถูกส่งกลับมา

รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ แห่งสหรัฐฯ ได้กล่าวสดุดีการส่งคืนกระดูกทหารอเมริกันถึงรัฐฮาวายในครั้งนี้ว่าเป็นความสำเร็จจากการประชุมสุดยอดผู้นำที่สิงคโปร์เมื่อเดือน มิ.ย. ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กับผู้นำ คิม จองอึน

“ผมทราบว่าประธานาธิบดี ทรัมป์ รู้สึกขอบคุณที่ประธาน คิม รักษาคำพูด และเราได้เห็นกระบวนการสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในวันนี้” เพนซ์ ผู้ซึ่งบิดาเคยร่วมรบในสงครามเกาหลี กล่าวสุนทรพจน์ที่ฐานทัพร่วม อ่าวเพิร์ล-ฮิกแคม ในรัฐฮาวาย

ทหารอเมริกันราว 7,700 นายยังคงมีสถานะเป็นผู้สูญหาย ในจำนวนนี้คาดว่าอยู่ในเกาหลีเหนือประมาณ 5,300 นาย

ประเทศอื่นๆ ที่ส่งทหารเข้าร่วมกับกองกำลังสหประชาชาติและมีผู้สูญหายเช่นกัน ได้แก่ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และแคนาดา

เพนซ์ ระบุว่า ตนเชื่อมั่นว่ากระดูกที่ใส่มาในกล่องคลุมธงชาติเหล่านี้จะต้องมีทหารอเมริกันรวมอยู่ด้วย

“ไม่ว่าใครก็ตามที่ถูกส่งมากับเครื่องบินลำนี้ นี่ก็คือวันที่เราจะเริ่มต้นฤดูแห่งความหวังสำหรับครอบครัวทหารที่สูญหาย” เขากล่าว

เครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯ นำกล่องใส่กระดูกเดินทางออกจากฐานทัพอากาศโอซานในเกาหลีใต้ หลังจากที่ได้ตรวจสอบในเบื้องต้น

ผู้เชี่ยวชาญยอมรับว่า การตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ของกระดูกเหล่านี้อาจต้องใช้เวลานานหลายวัน หรืออาจเป็นสิบปี

อย่างไรก็ตาม จอห์น ไบร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ของสำนักงานค้นหาเชลยศึกและผู้สูญหายของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (U.S. Defense POW/MIA Accounting Agency - DPAA) ระบุว่า ผลตรวจพิสูจน์เบื้องต้นพบว่ากระดูกเหล่านี้น่าจะตรงกับคำยืนยันของเกาหลีเหนือ

เจ้าหน้าที่โสมแดงได้ให้รายละเอียดเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับจุดที่พบศพ ซึ่งทางสหรัฐฯ สามารถนำไปเปรียบเทียบกับสมรภูมิรบที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี 1950-51 แต่อาจยืนยันตัวบุคคลไม่ได้เสมอไป

คำสัญญาว่าจะส่งคืนกระดูกทหารที่เสียชีวิตในสงครามถือเป็นหนึ่งในสัญญาณไมตรีจากผู้นำเกาหลีเหนือ และนับเป็นข้อตกลงที่เห็นผลเป็นรูปธรรมมากที่สุดจากการประชุมซัมมิตที่สิงคโปร์

การส่งคืนกระดูกทหารเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (27 ก.ค.) ยังตรงกับวาระครบรอบ 65 ปีข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งช่วยให้สงครามระหว่างกองกำลังเกาหลีเหนือ-จีนและเกาหลีใต้-สหรัฐฯ ภายใต้การนำของยูเอ็นยุติลงได้ในปี 1953

ทั้งสองฝ่ายยังคงมีสถานะเป็น ‘คู่สงคราม’ ในทางเทคนิค เนื่องจากไม่มีการลงนามสนธิสัญญาสันติภาพ

สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือเคยร่วมกันค้นหาศพทหารที่สูญหายในช่วงปี 1996-2005 ก่อนที่วอชิงตันจะยุติภารกิจไปเนื่องจากเป็นห่วงสวัสดิภาพของบุคลากร หลังจากเกาหลีเหนือเริ่มยกระดับกิจกรรมนิวเคลียร์

กระดูกที่พบในเกาหลีเหนือกว่า 400 ชุดถูกส่งกลับไปยังสหรัฐอเมริกาในช่วงทศวรรษ 1990 จนถึงปี 2005 และสามารถระบุตัวตนของทหารอเมริกันได้ราวๆ 330 นาย ตามข้อมูลจาก DPAA

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ากำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการส่งบุคลากรไปยังเกาหลีเหนือ เพื่อดำเนินการค้นหาเพิ่มเติม