xs
xsm
sm
md
lg

“ทรัมป์” ยัวะจัดหลังอิหร่านเตือนเจอ “โคตรสงคราม” ด้าน รมว.มะกันก็ด่าผู้นำเตหะราน “มาเฟีย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ (ซ้าย) กับ ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ของอิหร่าน ปล่อยคารมข่มขู่ตอบโต้กันอย่างดุเดือด  ขณะที่วอชิงตันกำลังเพิ่มแรงกดดันเตหะราน ภายหลังที่ทรัมป์นำสหรัฐฯผละออกจากข้อตกลงนานาชาติว่าด้วยนิวเคลียร์อิหร่าน </i>
เอเจนซีส์ - สหรัฐฯ กับอิหร่านเพิ่มระดับการใช้คำพูดรุนแรงเข้าสาดใส่กัน “ทรัมป์” เตือนเตหะรานเลิกข่มขู่อเมริกา ไม่เช่นนั้นอาจเจอผลลัพธ์เลวร้ายที่น้อยคนเคยเจอมาก่อน หลังจากประธานาธิบดีอิหร่านจวกนโยบายปรปักษ์ของประมุขทำเนียบขาวจะนำไปสู่ “โคตรสงคราม” ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกัน ตราหน้าผู้นำอิหร่านเป็น “มาเฟีย” พร้อมให้สัญญาสนับสนุนชาวอิหร่านที่ไม่พอใจรัฐบาลของตนเอง

ในคืนวันอาทิตย์ (22 ก.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความที่มุ่งส่งไปถึงประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ของอิหร่านโดยตรง โดยบอกว่า อย่าข่มขู่อเมริกาอีก หากไม่อยากเผชิญผลลัพธ์ที่น้อยคนในประวัติศาสตร์เคยพบมาก่อน อเมริกาไม่ใช่ประเทศที่จะอดทนฟังถ้อยคำบ้าคลั่งเกี่ยวกับความรุนแรงและความตายอีกต่อไป

ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง รูฮานีกล่าวระหว่างการประชุมกับพวกนักการทูตของอิหร่านว่า ทรัมป์จะเสียใจถ้ายังขืนยั่วยุอิหร่าน และอเมริกาควรสำเหนียกว่า การทำสงครามกับอิหร่านจะกลายเป็น “มารดาแห่งสงครามทั้งหลาย” ผู้นำเตหะรานยังย้ำว่า อเมริกาจะไม่ประสบความสำเร็จในการยั่วยุชาวอิหร่านให้ต่อต้านรัฐบาล เพราะเท่ากับยั่วยุให้ชาวอิหร่านต่อต้านความมั่นคงปลอดภัยและผลประโยชน์ของตนเอง

รูฮานียังเย้ยหยันคำขู่ของทรัมป์ในการระงับการส่งออกน้ำมันอิหร่าน และบอกว่า อิหร่านต่างหากที่มีฐานะครอบงำและเป็นผู้ค้ำประกันการเดินเรือในอ่าวเปอร์เซียและช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันสำคัญ

ก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ รูฮานีก้ได้ข่มที่จะสกัดกั้นการจัดส่งน้ำมันของพวกประเทศเพื่อนบ้านผ่านไปตามเส้นทางดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อตอบโต้ความพยายามของวอชิงตันที่จะบังคับให้ทุกประเทศเลิกซื้อน้ำมันอิหร่าน

หลังจากทรัมป์ถอนตัวจากข้อตกลงนานาชาติว่าด้วยนิวเคลียร์อิหร่าน และประกาศจะเริ่มบังคับใช้การแซงก์ชั่นของสหรัฐฯเอง ซึ่งมีมาตรการที่จะเล่นงานพวกบริษัทและชาติที่ติดต่อทำธุรกิจกับอิหร่านด้วย โดยที่ในตอนต้นวอชิงตันมีแผนให้ทุกประเทศยุติการซื้อน้ำมันอิหร่านตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ และตัดขาดน้ำมันอิหร่านจากตลาดโลกอย่างสมบูรณ์ แต่ต่อมากลับประกาศว่า อาจยกเว้นสำหรับพันธมิตรบางชาติที่ต้องพึ่งพิงน้ำมันอิหร่านจริงๆ

ในวันอาทิตย์ (22) พลเอก คิอูมาร์ส เฮดารี ผู้บัญชาการทหารบกอิหร่าน กลายเป็นนายทหารใหญ่คนล่าสุดที่สนับสนุนคำขู่ของรูฮานี ขณะที่พลเอกโมฮัมหมัด บาเกรี ประธานเสนาธิการทหาร เตือนว่า แม้รัฐบาลอเมริกาไม่ได้ขู่ใช้มาตรการทางทหาร แต่จากข้อมูลที่ได้รับพบว่า วอชิงตันกำลังพยายามโน้มน้าวให้กองทัพของตนเองเปิดฉากบุกอิหร่าน
<i>รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ กล่าวปราศรัยที่ห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ใน ซีมีแวลลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย  วันอาทิตย์ (22 ก.ค.) ซึ่งเขาโจมตีพวกผู้นำอิหร่านว่ามีพฤติการณ์แบบมาเฟีย </i>
สงครามปากครั้งนี้มีขึ้นขณะที่คณะบริหารของทรัมป์กำลังเริ่มการรณรงค์ทั้งด้วยการออกคำแถลงที่ก้าวร้าวและสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อปลุกระดมชาวอิหร่านลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลของตัวเอง และกดดันให้เตหะรานยุติโครงการนิวเคลียร์และการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย

การรณรงค์เช่นนี้ เกิดขึ้นเคียงข้างการที่สหรัฐฯใช้มาตรการแซงก์ชั่น และมุ่งกดดันนานาชาติให้ตัดการติดต่อทางเศรษฐกิจกับอิหร่าน

ระหว่างปราศรัยกับพวกชาวอเมริกันเชื้อสายอิหร่าน ในวันอาทิตย์ (22) ที่ห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ในแคลิฟอร์เนีย ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ตราหน้าผู้นำอิหร่านว่าเป็น “มาเฟีย” และให้สัญญาสนับสนุนชาวอิหร่านที่ไม่พอใจรัฐบาลของตนเองโดยไม่ระบุรายละเอียด

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เปิดตัวช่องทางมัลติมีเดียทั้งวิทยุ ทีวี และออนไลน์ เพื่อเผยแพร่ข่าวสารภาษาฟาร์ซีตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะเป็นหลักประกันว่า อเมริกายืนหยัดเคียงข้างชาวอิหร่านทั้งที่อยู่ในและนอกบ้านเกิด รวมทั้งกำลังหาทางช่วยให้คนอิหร่านใช้อินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ถูกเซนเซอร์

พอมเพโอตั้งข้อสังเกตว่า เดือนมกราคมที่ผ่านมา อเมริกาได้แซงก์ชัน ซาเด็ก ลาริจานี ประธานศาลยุติธรรมอิหร่าน ฐานละเมิดสิทธิมนุษยชน และอเมริกาไม่กลัวที่จะจัดการเช่นเดียวกันนี้กับพวกผู้นำระดับสูงของเตหะราน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามและหน่วยกุดส์

พอมเพโอสำทับว่า ผู้นำอาวุโสของอิหร่านแสวงหาผลประโยชน์จากการยักยอกและการทุจริต รวมถึงข้อตกลงที่เอื้อผลประโยชน์ และว่า บรรดาอยาตอลเลาะห์ (ผู้นำทางศาสนาของอิหร่าน) ล้วนแล้วแต่สนใจในความมั่งคั่งร่ำรวยมากกว่าศาสนา


กำลังโหลดความคิดเห็น