รอยเตอร์ – กบฏซีเรียกำลังเจรจากับรัสเซียเพื่อคืนอำนาจอธิปไตยในพื้นที่ที่พวกเขาควบคุมในจังหวัดเดราอาทางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งกองทัพทำการรุกคืบอย่างรวดเร็วในเดือนนี้ กลุ่มกบฏ ระบุในวันนี้ (30)
การโจมตีทางอากาศเกิดขึ้นเมื่อคืนจนถึงเช้าวันนี้ (30) ในพื้นที่กบฏ กลุ่มสังเกตการณ์สงคราม ระบุ เพื่อสนับสนุนการบุกจู่โจมที่องค์การสหประชาชาติระบุว่า ทำให้มีผู้พลัดถิ่น 160,000 คน เสี่ยงเกิดภัยพิบัติด้านมนุษยธรรม
สถานีโทรทัศน์ทางการรายงานว่า เมืองอีกแห่งหนึ่งก็ตกลงที่จะกลับเข้าไปอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาล โดยได้นำธงของรัฐบาลชักขึ้นบนอาคารที่ทำการในวันนี้ (30)
รัสเซีย ผู้สนับสนุนที่เข้มแข็งที่สุดของรัฐบาลซีเรีย สนับสนุนการรุกคืบของกองทัพด้วยการโจมตีทางอากาศนับตั้งแต่เข้าร่วมสงครามในปี 2015 และรับบทเป็นคนกลางในข้อตกลงยอมจำนนต่างๆ
ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของซีเรียเป็นหนึ่งในที่มั่นกบฏสองแห่งสุดท้าย นอกเหนือจากพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือที่ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรียให้คำมั่นว่าจะยึดกลับคืน เช่นเดียวกับพื้นที่ของกองกำลังเคิร์ดที่สหรัฐฯสนับสนุนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การบุกจู่โจมของกองทัพที่นั่นเกิดขึ้นภายหลังการยอมจำนนในเขตกบฏหลายแห่งใกล้ฮอมส์และดามัสกัส รวมถึงกูทาตะวันออก ซึ่งถูกยึดคืนภายหลังการโจมตีอย่างหนักหน่วงที่ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตกว่าพันคนและทำให้หลายเมืองเสียหายหนัก
การสู้รบในภาคตะวันตกเฉียงใต้อาจขยายความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากความที่มันใกล้กับอิสราเอล อิสราเอลมุ่งเป้ากลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนและอยู่ข้างอัสซาดยู่แล้ว อิสราเอลประกาศว่าจะกีดกันกลุ่มนี้ให้ห่างจากชายแดนของประเทศพวกเขา
จนถึงตอนนี้การจู่โจมของรัฐบาลมุ่งเน้นที่จังหวัดเดราอาซึ่งมีชายแดนติดจอร์แดน แต่ไม่ใช่จังหวัดกูเนตราที่มีชายแดนติดที่ราบสูงโกลานของอิสราเอล ข้อตกลงที่กำลังหารือกันไม่ได้รวมถึงกูเนตรา กลุ่มกบฏ ระบุ
ภาคตะวันตกเฉียงใต้ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของ “เขตลดความรุนแรง” ที่ได้รับความเห็นชอบเมื่อปีที่แล้วจากรัสเซีย สหรัฐฯ และจอร์แดน ถึงแม้ว่าวอชิงตันจะขู่ว่า พวกเขาจะตอบโต้การล่วงละเมิดข้อตกลงดังกล่าว แต่พวกเขากลับไม่ได้แสดงสัญญาณว่าจะทำเช่นนั้นจริงๆ และเมื่อวันพฤหัสบดี (28) หัวหน้าฝ่ายเจรจาของกบฏก็กล่าวหาสหรัฐฯ ว่าทำ “ข้อตกลงประสงค์ร้าย” แล้วปิดปากเงียบ